หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปฐกถาพิเศษ "แรงงานสูงวัย : พลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย" ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ ว่า ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน หรือร้อยละ 14 ของประชากรทั้งหมด เป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน จึงจำเป็นต้องขยายอายุการทำงานให้มากขึ้น อีกทั้งมีหลายหน่วยงานร่วมพัฒนากลยุทธ์การจ้างงาน กระทรวงแรงงาน ได้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และ พ.ร.บ.ประกันสังคม รองรับการจ้างงานผู้สูงอายุ ทั้งอายุเกษียณจาก 55 ปี เป็น 60 ปี ในระยะแรก การคุ้มครองการทำงานและสิทธิประโยชน์ต่างๆ คาดว่าร่างแก้ไขจะแล้วเสร็จเดือนตุลาคมนี้ และเปิดศูนย์หางานให้ผู้พิการและผู้สูงอายุ ในกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานสังกัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการค่าจ้าง มอบหมายให้ อนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรอง พิจารณาอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งการจ้างงานจะประสบผลสำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการ โดยตั้งเป้าปีนี้ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำกว่า 2,000 คน

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการขยายอายุการจ้างแรงงานผู้สูงวัย ในสถานประกอบการ ระหว่างกระทรวงแรงงาน มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสถานประกอบการ 11 แห่ง เน้นการจ้างงานผู้สูงอายุในสถานประกอบการ ที่กำลังเกษียณอายุตามความสมัครใจ และแลกเปลี่ยนข้อมูลการจ้างงาน รวมถึงกลไกลต่างๆ ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมให้เป็นสถานประกอบการต้นแบบการจ้างงานผู้สูงอายุด้วย