ไทยเร่งพัฒนาแรงงานทักษะสูงและทักษะภาษาต่างประเทศ เพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโตจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอาเซียนที่จะทำให้การส่งออกของภูมิภาคนี้อยู่ในอันดับ 3 ของโลกในปี 2561

นายประภัสสร์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เปิดเผยในงานโครงการพัฒนาบุคลากรด้านประชาคมอาเซียน หลักสูตร “จัดทัพธุรกิจเอสเอ็มอีพิชิตอาเซียน” ว่า ภาพรวมภูมิภาคอาเซียนถือเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ ดึงดูดการลงทุนมากในโลก เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประมาณ ร้อยละ 7-8 อย่างต่อเนื่องทุกปี หรือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และมีแนวโน้มเศรษฐกิจขาขึ้น คาดว่าในปี 2561 การส่งออกของอาเซียนจะอยู่ในอันดับ 3 ของโลก จากปัจจุบันประมาณ 4 หรือ 5 ในโลก

“ขณะเดียวกันภายในปี 2563 จีดีพีรวมของอาเซียนจะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 9 ของโลกขนาด รวม 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนมีการลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งที่ผ่านมามีการลงทุนจากต่างประเทศเป็นอันดับ 2 ในโลก และมาจากนักลงทุนอาเซียนเป็นหลัก ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีขนาดกลางและบริษัทที่มีศักยภาพต้องการขยายฐานการผลิตไปในตลาดที่กำลังเติบโต” นายประภัสสร์ กล่าว

นายประภัสสร์ เสนอว่าให้รัฐบาลเร่งปฏิรูปประเทศครั้งใหม่ ทั้งพัฒนาบุคลากร และแรงงานให้มีทักษะสูงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องภาษา รวมทั้งรัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์รุกตลาดภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งต้องผลักดันประเทศมุ่งสร้างนวัตกรรม การลงทุนวิจัยและพัฒนาสร้างแรงงานทักษะสูง และมุ่งอุตสาหกรรม 4.0 จากการวางโครงสร้างของประเทศครั้งใหม่ จะทำให้มีจีดีพีขยายตัว ร้อยละ 7-8 ในอนาคต

สำหรับธุรกิจไทยที่มีศักยภาพและมีโอกาสสูงในอาเซียนจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะเป็นธุรกิบริการ ทั้งกลุ่มอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล ท่องเที่ยว การศึกษา และธุรกิจจัดงานนิทรรศการและงานแสดงสินค้า

รัฐบาลกำลังเร่งปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะด้านอาชีวศึกษาที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน การเพิ่มการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี การเพิ่มชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษและการเปิดสอนภาษาที่สาม รวมทั้งความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกับประเทศในกลุ่ม CLMV ฯลฯ