ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จาก โอลิมปิกเกมส์ สู่ พาราลิมปิกเกมส์

วันที่ลงข่าว: 29/08/16

การแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31” หรือ “ริโอเกมส์ 2016” ปิดฉากลงไปตามวาระ

 

เจ้าภาพ บราซิล จัดงานใหญ่ 2 รายการติดต่อกันนั่น คือ ฟุตบอลโลก หรือเวิลด์คัพ 2014 ต่อด้วย โอลิมปิกเกมส์ 2016 พูดกันตรงๆ ก็คือ ไม่พร้อมทั้งสองงาน

 

การดำเนินงานต่างๆ จึงกระท่อนกระแท่น ก่อนจะประคองร่างเข้าเส้นชัยไปได้แบบ “ไร้เหรียญรางวัล”

 

เป็นโอลิมปิกเกมส์ที่ว่ากันว่า ทำผลงานสู้เอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุดที่เกาหลีใต้ไม่ได้ด้วยซ้ำไป

 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของนักกีฬาไทยถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก กับปฏิบัติการทวงคืนความสำเร็จ หลังจาก 4 ปีก่อน ไม่ได้เหรียญทอง

 

ครั้งนี้ได้ไป 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง ถือว่าเข้าเส้นชัยได้อย่างสง่างาม

 

2 เหรียญทองจากยกน้ำหนัก 49 กก. หญิง โสภิตา ธนสาร และ 56 กก. หญิง สุกัญญา ศรีสุราช

 

2 เหรียญเงิน จากพิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนักรุ่น 56 กก. และ เทวินทร์ หาญปราบ เทควันโด รุ่น 58 กก.

 

2 เหรียญทองแดงจาก ยกน้ำหนักรุ่น 64 กก. ชาย สินธุ์เพชร กรวยทอง และ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโดรุ่น 49 กก.

 

 

 

ซึ่ง “ริโอเกมส์” มีทั้งหมด 87 ประเทศ ที่ได้รับเหรียญรางวัล รวม 307 ทอง 307 เงิน 361 เหรียญทองแดง โดย ประเทศไทย ได้อันดับที่ 35 ร่วมกับ เบลเยียม และได้อันดับ 8 ของเอเชีย

 

ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลอีกด้วย ซึ่งสถิติดีที่สุดของไทย เกิดขึ้นในปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่ไทยเราได้ถึง 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง

 

ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทย ยังเป็นหนึ่งของชาติอาเซียน นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ด้วยการทำเหรียญรางวัลมากกว่าเพื่อนร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างต่อเนื่อง

 

แถมการแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ชาติอาเซียน ได้เหรียญทองถึง 4 ชาติ และได้เหรียญรางวัลถึง 6 ประเทศ หลังจากที่ 

4 ปีก่อนชาติในภูมิภาคนี้ไม่ได้เหรียญทองแม้แต่ประเทศเดียว

 

 

 

หลังจากนี้ บราซิล ยังต้องรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีก 1 กีฬาสำคัญนั่นคือ “พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16” ระหว่าง

วันที่ 7-18 กันยายนนี้ ที่ชามอ่างยักษ์มาราคาน่า สเตเดี้ยม

 

มีการแข่งขันทั้งหมด 23 ชนิดกีฬา ชิงชัยทั้งสิ้น 528 เหรียญทอง

 

ครั้งนี้เจ้าภาพได้เตรียมสนามไว้รองรับทั้งสิ้น 4 สังเวียนหลัก ประกอบด้วย “บาร์ฮา คลูสเตอร์” ซึ่งจะเป็นสังเวียนหลัก มีถึง 10 สนามด้วยกัน, เดโอโดโร่ คลุสเตอร์ 3 สนาม, มาราคาน่า คลุสเตอร์ 3 สนาม และ โคปาคาบาน่า คลุสเตอร์ อีก 3 สนาม

 

น่าสนใจตรงที่ทัพนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ของไทย เมื่อ 4 ปีก่อนสร้างผลงานเอาไว้ได้สุดยอดมากๆ ด้วยการคว้า 4 เหรียญทอง 

2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

 

เราได้มาจาก เหรียญทอง บ็อคเซียประเภทเดี่ยว จากพัทธยา เทศทอง

 

เหรียญทอง ทีมบ็อกเซีย ประกอบด้วย พัทธยา เทศทอง, วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, มงคล จิตรเสงี่ยม และ วัชรพล วงษา

 

เหรียญทอง เทเบิลเทนนิส จากรุ่งโรจน์ ไทยนิยม

 

เหรียญทองวีลแชร์ฟันดาบ จาก สายสุนีย์ จ๊ะนะ

 

เหรียญเงิน วีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 เมตรชาย จาก ประวัติ วะโฮรัมย์

 

เหรียญเงิน ทีมวีลแชร์เรซซิ่ง ประเภทผลัด 4x400 เมตรชาย ประกอบด้วย ประวัติ วะโฮรัมย์, สายชล คนเจน, โสภา อินทเสน และ ศุภชัย โกยทรัพย์

 

เหรียญทองแดง 2 เหรียญ ได้จาก สายชล คนเจน กีฬา วีลแชร์เรซซิ่ง 100 กับ 800 เมตร

 

แรกทีเดียว ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าใดนัก กระทั่งนักกีฬาไทยเราผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ จนแซงนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ 4 ปีก่อนมือเปล่าไร้เหรียญทองมาครองคอเป็นหนแรกในรอบ 16 ปี กระแสของ “พาราลิมปิกเกมส์ 2012” ก็ร้อนแรงขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

เพราะชนะใจประชาชน ชนะใจสื่อทั้งภายในและต่างประเทศ

 

กระแสความแรงมีมากแบบไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ยกย่อง สปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนพวกเขาเหล่านี้ตั้งแต่เริ่ม อาทิ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในขณะเดียวกัน ก็ไล่สับพวกที่มาแจกรางวัลตอนได้เหรียญแล้ว จนหลายคนเสียรางวัดกันไปเลย

 

ก็น่าแปลกดีตรงที่ ทำไมช่วงซ้อมไม่มา เหมือนเด็ดยอดชาโดยที่ตัวเองไม่ได้ร่วมปลูก

 

 

 

ซึ่งการเดินทางไปแข่งขันในครั้งนี้ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากีฬาใดในโลก ถึงเวลานี้นักกีฬาทุกคนตั้งใจฝึกฝนกันอย่างเต็มที่ เพื่อเข้าร่วมแข่งขัน โดยตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 4 เหรียญทอง จาก 10 ชนิดกีฬาที่ลงแข่งขัน

 

“เราจะพยายามให้ได้เหรียญทองไม่น้อยกว่าผลงานที่เคยทำมา เชื่อมั่นได้ว่านักกีฬาไทยสามารถทำผลงานได้ดีอย่างแน่นอน”

 

พร้อมกันนี้ยังมี “บิ๊กนิดหน่อย” กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนทำแคมเปญ #HEROparalympic2016 หรือ #ฮีโร่พาราลิมปิก2016 เป็นโครงการชวนคนไทยร่วมให้กำลังใจนักกีฬาคนพิการผ่านทางโลกออนไลน์อีกด้วย

 

“แคมเปญนี้คนไทยทุกคนสามารถเข้าไปร่วมให้กำลังใจนักกีฬาได้ เพียงเข้าไปไลค์ในเฟซบุ๊ค แฟนเพจของทางมูลนิธิฯ ได้แก่ Paralympic Thailand และสามารถโพสต์ข้อความให้กำลังใจในหน้าเฟซบุ๊ค พร้อมติดแฮชแท็ก #HEROparalympic2016 โดย มูลนิธิฯ จะทำการรวบรวมและส่งกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาต่อไปในระหว่างการแข่งขันเพื่อเป็นกำลังใจให้นักกีฬาต่อไป”

 

น่าสนใจครับว่า ไทยเราจะประสบความสำเร็จขนาดไหนในริโอ เดอ จาเนโร

 

เพราะความร้อนแรงจาก 4 ปีก่อนเชื่อว่ายังอยู่ในในของนักกีฬาชาวไทย หากพวกเขายังคง “สมหัวใจสิงห์” เหมือนเดิม

 

เราอาจจะได้เฮดังๆ เฮกันยาวๆ ไม่แพ้กับโอลิมปิกเกมส์!!!

 

บี แหลมสิงห์

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 28 สิงหาคม 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก