ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สานพลังประชารัฐจ้างงานคนพิการ 10,000 อัตรา

วันที่ลงข่าว: 25/07/16

"6 องค์กรวิชาชีพ-200 องค์กรเอกชน" ผนึกกำลังสานพลังประชารัฐ จ้างงานคนพิการ 10,000 อัตราในปี 2559 ขณะที่ "ก.แรงงานพม." มั่นใจช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 1,000 ล้านบาท ด้าน "สสส.-มูลนิธินวัตกรรมฯ" เร่งสานความร่วมมือผู้จ้าง-คนพิการ ชูคำขวัญ "ทำได้ ทำง่าย ไม่ต้องรอ" ตั้งเป้าจ้างคนพิการ 3 พันอัตรา

 

วันที่ 21 ก.ค. ที่หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรชัย ชั้น 7 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมเป็นประธานงานประกาศความร่วมมือ โครงการ "สานพลังสู่มิติใหม่ สร้างงาน สร้างอาชีพคนพิการ 10,000 อัตรา" จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ในฐานะองค์กรตัวกลางที่สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานคนพิการ และภาคีเครือข่ายที่ทำงานด้านคนพิการอีกกว่า 20 องค์กร โดยมีภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานคนพิการในงานนี้กว่า 200 องค์กร

 

พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงฯ พร้อมขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพคนพิการตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล "ประชารัฐ" ที่เน้นบูรณาการพลังร่วมจากทุกภาคส่วนและสนับสนุนการจ้างงานและการส่งเสริมอาชีพคนพิการมิติใหม่ โดยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจในการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานตามมาตรา 33 ซึ่งสถานประกอบการไม่เพียงแต่จ้างคนพิการทำงานตรงกับบริษัท แต่ยังสามารถจ้างคนพิการให้ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะในชุมชนหรือภูมิลำเนาได้ และยังส่งเสริมอาชีพตามมาตรา 35 ที่บริษัทสามารถให้การสนับสนุนคนพิการที่มีความต้องการประกอบอาชีพอิสระได้ โดยกระทรวงฯ ได้มอบนโยบายนี้แก่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อสนับสนุนให้เกิดจ้างงานคนพิการได้ 10,000 อัตราภายในสิ้นปีนี้

 

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ มีบทบาทโดยตรงในการประสานนโยบายร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นำไปสู่ความเท่าเทียม และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ถ้าสามารถร่วมมือกันขับเคลื่อนการจ้างงานคนพิการให้ได้ตามเป้าหมาย 10,000 อัตราในปีนี้ ย่อมเท่ากับสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากถึง 1,000 ล้านบาท เพราะตามกฎหมายได้กำหนดให้สถานประกอบการรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วนลูกจ้างต่อคนพิการ 100:1 ทำให้มีจำนวนคนพิการที่สถานประกอบการต้องจ้าง 55,283 ตำแหน่ง ขณะที่สถานประกอบการปัจจุบันสามารถจ้างงานคนพิการได้เพียง

 

34,383 ตำแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 62 เท่านั้น และหากสถานประกอบการใดไม่สามารถจ้างคนพิการได้ครบก็จะต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในอัตรา 109,500 บาทต่อคนต่อปี

 

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.โดยแผนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะได้สนับสนุนแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแบบครบวงจร ภายใต้มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม โดยได้ริเริ่มและเชื่อมประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกับขับเคลื่อนจนเกิดการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพคนพิการกว่า 1,277 อัตราในปี 2559 โดยความร่วมมือของบริษัทเอกชน 88 องค์กร ถือเป็นมิติใหม่การจ้าง

 

งานและสร้างอาชีพคนพิการ ทำให้คนพิการเข้าถึงโอกาสในการทำงาน ทั้งงานสาธารณประโยชน์ รวมถึงการพัฒนารูปแบบการทำงานจิตอาสารณรงค์ให้ความช่วยเหลือคนพิการที่อดีตเป็น จิตอาสาสู่การเป็นอาชีพนักพัฒนาสังคมและนักรณรงค์ที่มีลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน (พิการ) ทำให้คนพิการได้ทำงานที่มีคุณค่า พร้อมกับการมีรายได้ มีอิสระมีศักดิ์ศรีและพึ่งพาตนเองได้ ขณะที่บริษัทที่เข้าร่วมโครงการต่างมีความพึงพอใจต่อผลงานของคนพิการ และรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ สสส.ยังสนับสนุนให้คนพิการมีงานทำผ่านมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ โครงการฮิวแมนสเตชัน เพื่อผลิตนักดนตรีคนพิการ ที่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอง อาชีพนวดคนตาบอด และพัฒนาทักษะการผลิตสื่อของคนหูหนวก เป็นต้น

 

นายอภิชาติ การุณกรสกุล ประธานกรรมการมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม กล่าวว่า ผลจากการเชื่อมต่อผู้จ้างอันหมายถึงสถานประกอบการและคนพิการผ่านองค์กรภาคีภาคสังคมกลุ่มต่างๆ เช่น มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ มูลนิธิพิทักษ์ดวงตาลำปาง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ มูลนิธิเมาไม่ขับ และอีกมาดมาย รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับภาครัฐทั้งสองกระทรวงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมมีความพร้อมที่จะร่วมกันขยายผลให้เกิดการจ้างงานตามโครงการ "สานพลังสู่มิติใหม่ สร้างงาน สร้างอาชีพคนพิการ 10,000 อัตรา" ด้วยคำขวัญ "ทำได้ ทำง่าย ไม่ต้องรอ" โดยในงานนี้จากความร่วมมือของ 6 องค์กรวิชาชีพชั้นนำของประเทศ ได้แก่ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย รวมทั้งบริษัทเอกชนที่มาร่วมงานในวันนี้กว่า 200 องค์กร ทำให้สามารถคาดหวังเป้าหมายในเบื้องต้นว่าจะเกิดโอกาสการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพคนพิการในงานนี้ไม่น้อยกว่า 3,000 อัตรา จาก 10,000 อัตรา ที่เป็นเป้าหมายร่วมภายในสิ้นปีนี้

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 22 กรกฏาคม 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก