พม. เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4 / 2559 เพื่อหารือทุกกระทรวง บูรณาการทำงานร่วมกัน ในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ

วันนี้ (8 ก.ค. 59) เวลา 09.30 น. ที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2559 ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ โดยมีพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้การต้อนรับ

นายไมตรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือและนำเสนอประเด็นสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย การนำเสนอวีดีทัศน์รายงานภารกิจสำคัญ และสรุปผลงานสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมนำเสนอประเด็นที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสนับสนุน และขอความร่วมมือจากส่วนราชการที่เข้าร่วมประชุมฯ ในเรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนดินแดง การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว การจ้างงานคนพิการในหน่วยงานภาครัฐ ผู้สูงอายุ และการมอบนโยบายสตรีแก่หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย สั่งการ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแก่หัวหน้าส่วนราชการ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายไมตรี กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหน่วยงานหลักภาคสังคมของรัฐบาลที่มีภารกิจสำคัญในการทำหน้าที่เป็นองค์การและกลไกสำคัญด้านสังคมในการพัฒนาสังคม โดยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและความมั่นคงในชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน สตรี ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถบรรลุนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าในครั้งนี้ โดยมีการนำเสนอวีดีทัศน์รายงานภารกิจสำคัญและสรุปผลงานสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ประกอบด้วย

1) การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ส่งผลให้สหรัฐอเมริกาจัดอันดับประเทศไทยให้ดีขึ้น จากระดับ 3 (Tier 3) เป็นระดับ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch list)

2) การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2559 - 2568 )

3) การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะการให้เงินอุดหนุนแก่เด็กแรกเกิด – 3 ปี เป็นเงิน 600 บาทต่อเดือน

4) การพัฒนาคุณภาพชีวิต คนพิการ โดยเฉพาะการเพิ่มเบี้ยความพิการเป็น 800 บาทต่อเดือน และการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อคนพิการ ผู้สูงอายุ ตลอดจนทุกคนในสังคม

5) การเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยส่งเสริมการทำกิจกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการมีงานทำของผู้สูงอายุ

6) การแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและครอบครัว โดยการรณรงค์ยุติความรุนแรงทั่วประเทศและการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือหญิงไทยในต่างประเทศ

7) การแก้ไขปัญหาคนขอทานและคนไร้ที่พึ่งอย่างครบวงจรและยั่งยืน โดยการรณรงค์ตามแนวคิด “ให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน”

8) การพัฒนากระบวนงานและระบบ โดยเฉพาะการดำเนินการด้านกฎหมาย ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงฯ(ศปก.พม.) ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 (สายด่วน 1300) การปรับโครงสร้างของส่วนราชการ และความร่วมมือด้านสังคมระหว่างประเทศ

นายไมตรี กล่าวต่ออีกว่า การประชุมครั้งนี้ มีการหารือและนำเสนอประเด็นสำคัญต่างๆ ที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสนับสนุน และขอความร่วมมือจากส่วนราชการ ได้แก่

1) การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนดินแดงในประเด็นการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดง และโครงการที่พักอาศัยแปลง G ที่เป็นอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 334 ยูนิต ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสามเหลี่ยมดินแดงบนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่

2) การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว โดยขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการทำงานร่วมกัน

3) การจ้างงานคนพิการในหน่วยงานภาครัฐ โดยขอความร่วมมือทุกกระทรวง บูรณาการทำงานร่วมกัน

4) ผู้สูงอายุ โดยขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการทำงานร่วมกันในประเด็นการขยายโอกาสการทำงานของผู้สูงอายุ และการพัฒนาที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและปลอดภัย

5) การมอบนโยบายสตรีแก่หน่วยงานภาครัฐ โดยขอความร่วมมือทุกกระทรวง บูรณาการทำงานร่วมกัน ผ่านการขับเคลื่อนกลไก CGEO (ปลัดกระทรวง) ในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ

“นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ การน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการช่วยเหลือ จัดสวัสดิการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเป้าหมายให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และในช่วงนี้ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการ “พระบารมีปกเกล้า ชาวประชาบดี” โดยรวบรวม 14 ภาพหายากแห่งความจงรักภักดีและศรัทธาของลูกพระประชาบดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการตามรอยพระยุคลบาท เพื่อสืบสานงานพัฒนาสังคม ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการดังกล่าว โดยการแสดงนิทรรศการครั้งนี้ ได้ร้อยเรียงเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมุ่งมั่นบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เสด็จพระราชดำเนิน ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองและพัฒนาชาวเขาทั่วประเทศ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีจะได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) อีกด้วย” นายไมตรี กล่าวในตอนท้าย