รมว.พม. กำชับเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 ปี รับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูตาวัย 87 ปี และยายวัย 70 ปี พิการเป็นโรคอัมพฤกษ์ และน้องอีก 2 คน ทุกวันหยุดต้องไปรับจ้างขุดมัน หาเงินจุนเจือครอบครัว ที่ จ.กำแพงเพชร พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบปัญหาทางสังคม ที่ จ.อ่างทอง และสุรินทร์

วันนี้ (5 ก.ค. 59) พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 432/2557-2559 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

พลตำรวจเอก อดุลย์ เปิดเผยว่า จากกรณีเด็กหญิงวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร รับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูตาวัย 87 ปี และยายวัย 70 ปี ป่วยพิการเป็นโรคอัมพฤกษ์ ไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ และการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีน้องสาวและน้องชายอีก 2 คน วัย 11-12 ปี ทั้ง 5 ชีวิตอาศัยในเพลิงสังกะสีสภาพเก่าใกล้ผุพัง ทุกวันหยุดเด็กหญิงจะออกไปรับจ้างขุดมันเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร (พมจ.กำแพงเพชร) และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและผู้สูงอายุของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของหญิงชราอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กทั้ง 3 คนในระยะยาวต่อไป

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณีเด็กชายวัย 9 ขวบ ประสบอุบัติเหตุจนพิการทางสายตาและสมองมีพัฒนาการช้า แต่ไม่ย่อท้อขยันตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีชอบช่วยเหลือสังคม อาศัยอยู่กับตายายแก่ชรา รวมทั้งแม่และพี่สาว ครอบครัวมีฐานะยากจน ทั้ง 5 ชีวิตอาศัยในบ้านไม้สภาพเก่าทรุดโทรม ที่จังหวัดอ่างทอง ตนขอแสดงความชื่นชมในความขยันหมั่นเพียร และความมีมุมานะพยายาม ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ถึงแม้จะมีอุปสรรคทางด้านร่างกาย แต่ไม่ย่อท้อ รวมถึงการมีจิตอาสาชอบช่วยเหลือสังคม น่ายกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน และได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง (พมจ.อ่างทอง) และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและผู้สูงอายุของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องและดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กชายในระยะยาวต่อไป รวมทั้งประสานเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีชาวสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวขอความช่วยเหลือสองสามี-ภรรยาแก่ชรา วัย 66 ปีและ 62 ปี ด้านชายชราพิการทางการเคลื่อนไหว ทั้ง 2 ชีวิตอาศัยเพียงลำพังในกระท่อมสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพังไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ รับจ้างเกี่ยวหญ้าให้วัว หาเงินซื้อข้าวประทังชีวิตไปวันๆ หากวันไหนไม่มีงานก็ขาดรายได้ อดมื้อกินมื้อ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดสุรินทร์ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ (พมจ.สุรินทร์) และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของชายชราอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประสานเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและถูกสุขลักษณะต่อไป