พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 422/2557-2559 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ว่า จากกรณีเด็กชายยอดกตัญญูวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 เป็นเด็กเรียนดี ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูแม่วัย 49 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และยายแก่ชราวัย 89 ปี ด้านผู้เป็นพ่อทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ทุกเช้าเด็กชายต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อทำงานบ้านและเตรียมหุงหาอาหารไว้ให้แม่และยายรับประทานก่อนเดินทางไปโรงเรียน ทั้ง 3 ชีวิตอาศัยในบ้านไม้สภาพเก่าใกล้ผุพัง ด้านแม่เด็กชายเปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าของที่ที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยจะมาขอที่คืน ซึ่งตนและครอบครัวไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน ที่จังหวัดกำแพงเพชร ตนขอชื่นชมในความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ขยันหมั่นเพียร มีความมุมานะ ไม่ทอดทิ้งการเรียนและตั้งใจศึกษาจนมีผลการเรียนอยู่ในระดับดี น่ายกย่องชื่นชมเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร (พมจ.กำแพงเพชร) และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมถึงอุปกรณ์การศึกษา พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ และดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กชายในระยะยาวต่อไป

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีเด็กหญิง 2 พี่น้อง วัย 8 ขวบและ 12 ปี อาศัยอยู่ตามลำพังกับพ่อวัย 53 ปี พิการทางขา อาชีพทำงานก่อสร้าง บางครั้งต้องไปทำงานต่างจังหวัด ด้านผู้เป็นแม่ไปมีครอบครัวใหม่ แต่ยังแวะเวียนมาหาบ้าง ทั้ง 3 ชีวิตอาศัยในบ้านเช่าไม้สภาพเก่าใกล้ผุพัง ห้องน้ำไม่มีหลังคาและฝากั้นด้านข้างก็พังเกือบทั้งหมด ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดอ่างทอง และกรณีสองสามี-ภรรยาแก่ชราวัย 65 ปี และ 63 ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานชาย 2 คนวัย 12 ปี ที่ลูกสาวนำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงตั้งแต่อายุ 4 เดือน แล้วหนีหายไปกว่า 10 ปี อีกทั้งก่อนหนีหายไป ได้นำโฉนดที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยไปจำนองไว้กับธนาคารเพื่อกู้เงินออกมาใช้ แล้วปล่อยให้ตนรับผิดชอบภาระหนี้สิน ครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยในบ้านสภาพเก่าใกล้ผุพัง ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั้ง 2 จังหวัด (พมจ.อ่างทองและเพชรบูรณ์) และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมถึงอุปกรณ์การศึกษา พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ และดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กในระยะยาวต่อไป