ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เลขาธิการสหประชาชาติ ชื่นชมไทยที่ยุติการถ่ายทอดเอชไอวีจากแม่สู่ลูกสำเร็จ และเป็น 4 ประเทศแรกของโลก ที่จะทำให้เด็กเกิดใหม่ปลอดจากการติดเชื้อเอชไอวี

วันที่ลงข่าว: 13/06/16

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยเลขาธิการสหประชาชาติ ชื่นชมประเทศไทยที่สามารถแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าแม้เป็นประเทศที่ประสบปัญหาการระบาดของเอชไอวีในช่วงแรก แต่สามารถยุติการถ่ายทอดเอชไอวีจากแม่สู่ลูกสำเร็จเป็นประเทศแรกของเอเชีย และจะเป็น 4 ประเทศแรกของโลก ที่จะให้เด็กเกิดใหม่ปลอดจากการติดเชื้อเอชไอวี

 

ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในระหว่างการเปิดประชุมระดับสูงสหประชาชาติ เรื่องเอชไอวี ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2559 นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้เรียกร้องประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ร่วมกันใช้โอกาสสำคัญนี้ยุติการระบาดของเอชไอวีและเอดส์ไม่ให้เป็นปัญหาอีกต่อไป และยังได้กล่าวกล่าวชื่นชมประเทศไทยที่สามารถแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า แม้จะเป็นประเทศที่ประสบปัญหาการระบาดของเอชไอวีในช่วงแรก แต่ขณะนี้สามารถยุติการถ่ายทอดเอชไอวีจากแม่สู่ลูกสำเร็จเป็นประเทศแรกของเอเชีย และจะได้ร่วมกับอีก 4 ประเทศแรกของโลกในการที่จะให้เด็กเกิดใหม่ปลอดจากการติดเชื้อเอชไอวี โดยประเทศไทยและ Bearus ได้รับการรับรองการยุติการถ่ายทอดเอชไอวีและชิฟิลิสจากแม่สู่ลูก ส่วนประเทศ Modova ผ่านการรับรองการยุติการถ่ายทอดชิฟิลิส และประเทศ Abernia ผ่านการรับรองการยุติการถ่ายทอดเอชไอวี

 

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าวต่อว่า ความสำเร็จของการดำเนินงานในประเทศไทยเกิดจากการให้ความสำคัญ และมีความมุ่งมั่นของการเมืองในระดับสูง และมีปัจจัยสำคัญ 5 ประการคือ Innovation, Investment, Intersectoral actions, Intelligence, and Intensive โดยนวัตกรรมที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย การป้องกันการถ่ายทอดเอชไอวีจากแม่สู่ลูก และการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ทั้งนี้ งบประมาณในการดำเนินงานกว่าร้อยละ 90 มาจากภายในประเทศ ที่ได้สนับสนุนการดำเนินงานจากทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคประชาสังคม โดยมีระบบข้อมูลที่ดีและใช้ความรู้จากการวิจัยช่วยในการดำเนินงาน รวมทั้งการทำงานอย่างเข้มข้นจริงจังต่อเนื่อง

 

สำหรับวัตถุประสงค์การประชุมใหญ่สหประชาชาติครั้งนี้ เพื่อทบทวนความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านเอดส์ตามพันธะกรณีในปี 2011 และรับรองพันธะกรณีฉบับใหม่ในการต่อสู้กับปัญหาเอดส์ ซึ่งประเทศไทยได้รับการยอมรับและยกย่องในระดับสูงในการประชุมใหญ่สหประชาชาติครั้งนี้ โดยได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการที่สามารถยุติการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก รวมทั้งได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรในที่ประชุมใหญ่เรื่องการยุติการรังเกียจตีตราและเลือกปฏิบัติ และวิทยากรในการประชุมย่อยเรื่องการยุติการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก การรักษาด้วยยาต้านไวรัสถ้วนหน้า เมืองใหญ่อาเซียนยุติปัญหาเอดส์ การพัฒนาระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืน นับเป็นความสำเร็จของประเทศไทยในเวทีระดับโลก

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก