ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ขอผ่อนผันให้นักร้องนักดนตรีตาบอดประกอบอาชีพในที่สาธารณะ

วันที่ลงข่าว: 30/05/16

วันนี้ (27 พ.ค.59) พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 405/2557-2559 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ขับเคลื่อนระดับนโยบายด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทั่วประเทศ โดยให้คนพิการได้รับเบี้ยความพิการเพิ่มขึ้นจากเดิมรายละ 500 บาทต่อเดือน เป็นรายละ 800 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 เป็นต้นมา สำหรับแนวทางการดำเนินการเบิกจ่ายเบี้ยความพิการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครม. ได้มีมติเห็นชอบในเรื่องการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) แก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการแล้ว สามารถมีสิทธิได้รับเบี้ยความพิการทันที โดยไม่ต้องรอลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยความพิการในปีถัดไป พร้อมทั้งประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหน้าที่และภารกิจเพื่อให้คนพิการทุกคนที่มีบัตรประจำตัวคนพิการได้รับเบี้ยความพิการทันที ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป

 

ซึ่งล่าสุด ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยมีผลให้คนพิการรายใหม่ที่ขอมีบัตรประจำตัวคนพิการสามารถลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนา และมีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป ซึ่งใช้หลักฐานพร้อมสำเนา ได้แก่ (1) บัตรประจำตัวคนพิการ (2) ทะเบียนบ้าน และ (3) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยความพิการประสงค์ขอรับเงินเบี้ยความพิการผ่านธนาคาร สำหรับคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการและได้มีการย้ายภูมิลำเนาไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นหรือกรุงเทพมหานคร ให้ลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ที่ตนมีภูมิลำเนา และให้รับเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ต้องได้รับการยืนยันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมที่จ่ายเงินเบี้ยความพิการเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน

 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขระเบียบดังกล่าว ส่งผลให้คนพิการที่ขอมีบัตรประจำตัวคนพิการจะได้รับเบี้ยความพิการทันที โดยคนพิการที่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยความพิการในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 จำนวนกว่า 2 แสนคน จะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการทันทีในปีงบประมาณ 2559 ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คนพิการทั่วประเทศได้รับเบี้ยความพิการ อย่างทั่วถึง และเพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีพให้มีความมั่นคงและคุณภาพที่ดีขึ้น

 

“สำหรับกรณี ชายอายุ 70 ปี อดีตอาจารย์หาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพมหานครที่พิการทางการเคลื่อนไหว เนื่องจากประสบอุบัติเหตุจนต้องลาออกงานมาประกอบอาชีพรับเลี่ยมกรอบพระ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูภรรยาที่ป่วย แต่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของครอบครัว ที่อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท (พมจ.ชัยนาท) และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ พมจ.ชัยนาท และศูนย์บริการคนพิการ จ.ชัยนาท ได้มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวกรณีฉุกเฉินจำนวน 2,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งรับคำร้องขอกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของชายดังกล่าวที่จะนำไปประกอบอาชีพรับเลี่ยมกรอบพระจำนวน 40,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาอนุมัติในเดือนมิถุนายน 2559 อีกทั้งได้ทำการตรวจสอบสภาพและส่งซ่อมรถเข็นให้พร้อมใช้งานจำนวน 1 คัน” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก