ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รมว.พม.สั่งการเร่งติดตามการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้หอพักโรงเรียนใน จ.เชียงราย พร้อมเร่งศึกษาการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

วันที่ลงข่าว: 26/05/16

วันนี้ (25 พ.ค. 59) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ : พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เรียกประชุมและติดตามสถานการณ์กรณี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2559 เวลา 13.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียนหญิงชั้นประถมของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาในจังหวัดเชียงราย ขณะที่เด็กอยู่ในหอพักดังกล่าวจำนวน 36 คน ภายหลังพบว่า มีเด็กถูกไฟคลอกเสียชีวิตรวมจำนวน 17 ราย บาดเจ็บ 5 คน (บาดเจ็บสาหัส 2 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน) และไม่ได้รับบาดเจ็บ 14 คน โดยได้มอบหมายให้นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เมื่อวานนี้ (24 พ.ค. 59) ล่าสุด ได้รับรายงานว่า ครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตทั้งหมด 17 ราย ได้รับมอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ครอบครัวละ 3,000 บาท พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และมีการเยี่ยมและให้กำลังใจเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว ณ โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า

 

สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวทั้งหมด 36 ราย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย 23 ราย เชียงใหม่ 12 คน และแม่ฮ่องสอน 1 ราย พลตำรวจเอก อดุลย์ ได้สั่งการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน (พมจ. เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน) รวมทั้งบ้านพักเด็กและครอบครัวในพื้นที่ทั้งสามจังหวัด เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวของเด็กที่เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือและเยียวยาอย่างต่อเนื่องตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถเรียนต่อในสถานศึกษาใกล้บ้าน โดยเฉพาะโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ที่มีที่พักสำหรับเด็ก อีกทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองจะสามารถดูแลบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิด

 

นอกจากนี้ พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความปลอดภัยด้านอาคารสถานที่ของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาที่ดำเนินงานภายใต้มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวจดทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเด็กร่วมใจ พบว่าเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของการจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชนตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู พ.ศ. 2549 ตามพระราชบัญัญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เช่น มีอาคารที่ตั้งในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีห้องนอน ห้องกิจกรรม ห้องครัว ห้องพยาบาล และห้องน้ำ ที่ถูกสุขลักษณะ และมีทางเข้า – ออก ที่สามารถเคลื่อนย้ายเด็กเวลาเกิดอัคคีภัยหรือภัยพิบัติ เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินการต่อไป กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะได้เร่งดำเนินการศึกษาเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพื่อหามาตรการในการป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก เช่น ต้องมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม และ การซักซ้อมในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอัคคีภัย เป็นต้น ซึ่งจะดำเนินการไม่เฉพาะกับสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ ที่ดูแลเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่รวมไปถึงที่ดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม นอกจากนี้จะได้จัดทำคู่มือป้องกันอัคคีภัยและแจกจ่ายไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน เพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก