ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ไทยและเมียนมา เห็นพ้องที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ ในทุกมิติ

วันที่ลงข่าว: 23/05/16

ไทยและเมียนมา เห็นพ้องร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกมิติ ทั้งเรื่องของเขตแดน และการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - รัสเซีย สมัยพิเศษ ณ ศูนย์การประชุมโรงแรมเรดิสัน บลู รีสอร์ท เมืองโซชิ โดยช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการหารือทวิภาคี กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ โรงแรมที่พัก จากนั้นนายกรัฐมนตรีและผู้นำอาเซียน จะพบหารือกับนักธุรกิจในงาน business forum ที่ศูนย์การประชุมโรงแรมเรดิสัน บลู รีสอร์ท และช่วงบ่ายจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - รัสเซีย สมัยพิเศษ โดยนายกรัฐมนตรี จะร่วมถ่ายภาพหมู่กับประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซียและผู้นำอาเซียนที่เข้าร่วมประชุมด้วย

สำหรับภารกิจช่วงบ่ายวานนี้ (19 พ.ค.59) นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ นายติน จ่อ ประธานาธิบดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน - รัสเซีย สมัยพิเศษ โดยนายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีเมียนมา ในโอกาสได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง และยินดีที่ไทยและเมียนมา จะได้ทำงานร่วมกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งยังยินดี ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะแรงงาน โครงการเศรษฐกิจพิเศษทวาย การเชื่อมโยงเพื่อประโยชน์ยิ่งขึ้นของประชาชนทั้งสองประเทศ และเชื่อว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดี และนางอองซาน ซูจี ที่บริหารงานโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะทำให้เมียนมาแข็งแกร่งไปด้วยกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเมียนมาในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ และไทย พร้อมที่จะผลักดันให้กลไกที่มีอยู่ อาทิ คณะกรรมการเขตแดนร่วม รวมทั้งคณะกรรมการร่วมระดับสูง เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง โดยเสนอให้มีการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรี ร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างไทย - เมียนมา เพื่อเป็นกลไกความร่วมมือระดับสูงในการผลักดันความร่วมมือทวิภาคี ให้มีความคืบหน้า

ด้านประธานาธิบดีเมียนมา แสดงความยินดี ที่ได้พบและหารือกับนายกรัฐมนตรี ในประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ พร้อมแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลแรงงานชาวเมียนมาในไทยเป็นอย่างดี และขอให้นายจ้างชาวไทย ดูแลคนงานชาวเมียนมาด้วย ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางกลับประเทศไทยทันที โดยเครื่องบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เที่ยวบินพิเศษที่ TG 8882 ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 50 นาที

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก