ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สถาบันราชประชาสมาสัยจัดสัมมนาเครือข่ายสื่อมวลชนและสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการร่วมป้องกันและเผยแพร่ให้โรคเรื้อนหมดไปจากประเทศไทย

วันที่ลงข่าว: 17/03/16

ที่ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงแรมเบย์ ถนนศรีนครินทร์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ นายแพทย์อาจินต์ ชลพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชประชาสมาสัย ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิด “ การสัมมนาเครือข่ายสื่อมวลชนและสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ปี 2559 ” ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการสร้างทัศนคติให้เกิดการยอมรับ ผู้ป่วยโรคเรื้อนให้อยู่ในครอบครัวได้ตามปกติ เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ในจังหวัดสมุทรปราการ และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเครือข่ายสื่อมวลชนและเครือข่ายสาธารณสุข บุคลาการสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ มูลนิธิและคณะกรรมการราชประชาสมาสัย จำนวน 50 คน โดยมีนายคเณศ กมลพันธ์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการและนางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมเป็นวิทยากร

นางนารี สุรชีวะ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผน สถาบันราชประชาสมาสัย กล่าวรายงานถึงความเป็นมาว่า วันที่ 16 มกราคม 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์มูลนิธิราชประชาสมาสัย ณ สถาบันโรคเรื้อนพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยทรงพระราชทานนาม “สถาบันราชประชาสมาสัย” ซึ่งมีหมายความว่า “พระมหากษัตริย์และประชาชนย่อมต้องอาศัยซึ่งกันและกัน” เพื่อเร่งรัดโครงการควบคุมโรคเรื้อนให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย ต่อมาจึงได้กำหนดให้วันนี้ของทุกปีเป็น “วันราชประชาสมาสัย” เพื่อรณรงค์เรื่องโรคเรื้อน เผยแพร่ความรู้ และหาทุนในการดำเนินการอีกด้วย

ซึ่งสถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค เป็นหน่วยงานของรัฐ ทำหน้าที่ป้องกัน ควบคุม ส่งเสริมสุขภาพและให้บริการรักษาโรคเฉพาะทาง โดยเฉพาะด้านโรคผิวหนังเนื้อชา หรือโรคเรื้อน ซึ่งในอดีตเป็นโรคที่ยังไม่มียารักษา ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ได้พัฒนายารักษาโรคเรื้อนที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคนี้ได้ แต่ผู้ป่วยบางรายไม่ตระหนักและมารับการรักษาที่ล่าช้า จนอาจมีความพิการเกิดขึ้นได้ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในเรื่องดังกล่าว จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรสื่อมวลชนและเครือข่ายสาธารณสุขในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการป้องกันในการดูแลสุขภาพลดอัตราการเจ็บป่วยและพิการจากโรคเรื้อนและช่วยกันให้โรคเรื้อนหมดไปจากประเทศไทยต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก