ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กพช.รับทราบการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพนักร้องและนักดนตรีตาบอดในที่สาธารณะจากถนนสู่ดวงดาว (From Street to Stars)

วันที่ลงข่าว: 11/03/16

วันนี้ (9 มี.ค.59) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย  รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2559  ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

 

ที่ประชุมรับทราบการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพนักร้องและนักดนตรีตาบอดในที่สาธารณะจากถนนสู่ดวงดาว (From Street to Stars) ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการแก้ไขปัญหาคนขอทาน และกลุ่มวณิพกตามท้องถนน ซึ่งสอดคล้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้พิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559 โดยสาระสำคัญของร่างนี้ คือ ห้ามมิให้บุคคลใดทำงานขอทาน ส่วนการเล่นดนตรีหรือการแสดงความสามารถอื่นใดในที่สาธารณะ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ชมหรือผู้ฟัง ไม่ถือเป็นการขอทาน แต่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้น เพื่อให้ออกใบรับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน

 

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงได้ร่วมกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพนักร้องนักดนตรีคนตาบอดในที่สาธารณะ : จากถนนสู่ดวงดาว (From Street to Stars) ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีกลุ่มเป้าหมายคนพิการทางการมองเห็นที่จะได้รับประโยชน์ จำนวน 800 คน สำหรับกิจกรรมการดำเนินงาน ประกอบด้วย การพัฒนาตนเอง ทั้งด้านบุคลิกภาพ การฝึกฝนและการเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มทักษะ ตลอดจนสร้างสรรค์การแสดงในที่สาธารณะ อาทิ ลานเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ลาน Victory Point อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คลองผดุงกรุงเกษม สวนลุมพินี อิมแพคเมืองทองธานี เป็นต้น ซึ่งนักร้อง นักดนตรีตาบอดดังกล่าวจะได้เป็นนักดนตรีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงชีพด้วยตนเองอย่างสมศักดิ์ศรีต่อไป

 

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการให้สัตยาบันต่อพิธีสารเลือกรับแห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

 

ทั้งนี้ การเข้าเป็นภาคีแห่งพิธีสารเลือกรับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ มีผลดีดังนี้ 1) เป็นการเพิ่มช่องทางในการเยียวยาจากการถูกละเมิดสิทธิให้แก่ประชาชนในลักษณะที่เป็นการเสริมกระบวนการยุติธรรมภายในของไทย 2) เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศชาติในฐานะสมาชิกของประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมในการเข้าเป็นภาคีแห่งพิธีสารนี้

 

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

 

 

 

ที่มาของข่าว http://www.thaigov.go.th
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก