ปัญหายาเสพติดเป็นอีกหนึ่งกรอบความร่วมมือ ที่ชาติสมาชิกอาเซียน ดำเนินการร่วมกันมายาวนานกว่า 35 ปี โดยเมื่อปี 2558 อาเซียนได้ประกาศเจตนารมณ์ เป็นเขตปลอดยาเสพติดอาเซียน ตั้งเป้าลดพื้นที่ปลูกยาเสพติด ลดการแพร่ระบาดยาเสพติด รวมทั้งยังมีแนวทางอื่นที่เกี่ยวกับยาเสพติดภายใต้กลไกเหล่านี้ด้วย เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.ของไทย ได้ร่วมหารือกับผู้แทนประเทศในกลุ่มอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเครือข่ายองค์กรทางวิชาการ เพื่อจัดทำรายงานการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดอาเซียน

นางนฤมล ช่วงรังษี รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เมื่อเปิดประชาคมอาเซียน เส้นทางคมนาคมจะมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น อีกทั้งยังเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มขึ้น ทำให้สถานการณ์ยาเสพติดเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างใกล้ชิด และหากสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นอย่างดีในการแก้ปัญหายาเสพติด ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ด้านนางนอร์เดียน่า อาร์วัง หัวหน้าหน่วยวิเคราะห์การข่าวยาเสพติด ประเทศบรูไน กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดของบรูไน ไม่เป็นปัญหามากนัก สามารถควบคุมได้ด้วยการคุมเข้มพรมแดน แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เชื่อว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน จะเป็นประโยชน์อย่างมาก และทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้ว่า เมื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเรื่องใด ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องยาเสพติด ที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง และมีความสัมพันธ์ต่อการเคลื่อนย้ายประชากร จึงต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างประเทศ ในการแก้ปัญหาและลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น