โรงเรียนการโรงแรมไทยให้คนหันมาเรียนด้านการโรงแรมมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะสูงถึง ๕๐ ล้านคนปี ๒๕๖๑

อักกพล พฤกษะวัน กรรมการผู้จัดการโรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยวรีเจ้นท์ ชะอำ เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจโดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเมื่อปี ๒๕๕๗ ประเมินว่าแรงงานที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ๖.๒ ล้านคน ต่อมาปี ๒๕๕๘ ต้องการเพิ่ม ๑.๐๘ แสนคน ส่วนใหญ่เป็นเป้นระดับปฏิบัติการมากกว่าระดับบริหาร จำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ ๑๐ ความต้องการบุคลากรจึงมีมากขึ้น อีกทั้งรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาประเทศไทยถึง ๕๐ ล้านคนในปี ๒๕๖๑

ประเทศไทยมีสถาบันการศึกษาด้านโรงแรมจำนวนมาก หากเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ไทยจะเป็นประเทศแข็งแกร่งที่สุดด้านการศึกษาภาคโรงแรม เป็นผลจากไทยเป็นประเทศผู้นำด้านการท่องเที่ยว มีการพัฒนาด้านนี้มากว่า ๕๐ ปี บางสถาบันไปเปิดสาขาสอนในต่างประเทศด้วยในปัจจุบัน นายอักกพลกล่าว

ปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กรรมการบริหาร โรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยวรีเจ้นท์ ชะอำ พบว่าผู้เรียนเลือกสาขาประกอบอาหารมากที่สุด สนใจงานแม่บ้านดูแลห้องพักน้อยมาก และกล่าวว่าโรงเรียนได้ทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศและต่างประเทศ โดยสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับโรงเรียนการโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มโอกาสการเรียนด้านโรงแรมเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนต่อได้ชั้นปีที่ ๒ และ ๓ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างกันทั้งอาจารย์และนักเรียน และสถาบันการศึกษาในออสเตรเลีย ในประเทศไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ชนินทร์ โทณวณิก กรรมการผู้จัดการบริษัทดุสิตธานี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงเรียนการโรงแรมดุสิตธานี กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารขาดแคลนบุคลากรไม่ตำกว่า ๔-๕ หมื่นคนในแต่ละปี เนื่องจากมีความต้องการคนไทยไปทำอาหารในต่างประเทศเพราะความชื่นชอบอาหารไทยสูง และว่าในต่างจังหวัดมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรทุกระดับ ระดับที่หายากคือ คนช่วยงานในครัว และคนทำความสะอาดห้องพัก

การท่องเที่ยวเป็นอาชีพหนึ่งที่เคลื่อนย้ายได้เสรีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีผลตั้งแต่ ปลายเดือนธันวาคม ๒๕๕๘