กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดประชุมแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐตระหนักและเร่งขับเคลื่อนการจ้างงานคนพิการเข้าสู่ระบบราชการให้มากขึ้น พร้อมเอาจริงบริษัทที่ไม่ปฎิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการ

นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ โดยนายไมตรี กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลด้านความมั่นคงของชีวิตและสังคม ต้องการส่งเสริมให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดหาอาชีพให้แก่คนพิการ เพื่อให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอาชีพและรายได้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการภาคเอกชน ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการในอัตราส่วนลูกจ้าง 100 คน ต้องจ้างคนพิการ 1 คน ตามมาตรา 33 และสนับสนุนการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนพิการ ตามมาตรา 35 จึงได้จัดการประชุมแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐตระหนักและเร่งขับเคลื่อนการจ้างงานคนพิการเข้าสู่ระบบราชการให้มากขึ้น และถือเป็นวาระสำคัญ ที่ต้องขับเคลื่อนการจ้างงานคนพิการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลโดยไม่เลือกปฏิบัติ

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินการตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการ โดยขณะนี้ ทำการอายัดทรัพย์สินไปแล้วจำนวน 48 บริษัท และอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับทางสถาบันการเงินอีก 164 บริษัท ที่เข้าข่ายไม่ปฎิบัติตามกฎหมายฯ และหากสถานประกอบการเอกชนใดไม่ดำเนินการ ต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้คนพิการจะได้มีอาชีพมีงานทำ สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป

ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2558 สถานประกอบการเอกชนได้รับคนพิการเข้าทำงานจำนวน 28,868 คน คิดเป็นร้อยละ 83.12 และในภาครัฐ จำนวน 1,668 คน หรือร้อยละ 16.27 เท่านั้น ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งร่วมมือกันเพื่อหาแนวทาง และวิธีการที่จะทำให้คนพิการสามารถเข้าทำงานกับหน่วยงานของรัฐได้อย่างเป็นรูปธรรมและทั่วถึง ภายในปี 2561 และให้รายงานผลการปฏิบัติ หรือนำเสนอแผนการดำเนินงานทุก ๆ 6 เดือน และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รวบรวมรายงานผลการดำเนินงานดังกล่าวเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป