ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ จับมือมูลนิธิพีซีเอสฯ สร้างรอยยิ้มให้ผู้ป่วยพิการบนใบหน้าและศีรษะ

วันที่ลงข่าว: 07/01/16

ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับ มูลนิธิพีซีเอส เพื่อพัฒนาสังคมในประเทศไทย โดยบริษัทพรอพเพอร์ตี้แคร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือพีซีเอส เชิญชวนน้องๆ ผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและศีรษะทั่วประเทศ เข้ารับการรักษาฟรีตลอด 5 ปี กับโครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา พร้อมจัดกิจกรรม “สนุกสุขสันต์วันพบปะ ครั้งที่ 5” (Happy Family Day 2015)ณ อาคารแพทยพัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นเสมือนวันเด็กเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ คืนความสุข ความหวังและรอยยิ้มให้ผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและศีรษะทั่วประเทศ

 

นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของสภากาชาด คือการเป็นที่พึ่งของประชาชน การเป็นองค์กรสาธารณกุศลเพื่อบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย เพื่อประโยชน์สุขของผู้คน ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การดูแลขอสภากาชาดไทย เป็นศูนย์กลางการรักษาความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งดำเนินการโดยไม่แสวงหาผลกำไรโดยทางศูนย์ได้ช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยในทุกๆ ด้าน ทั้งกาย ใจ และสังคม และในโอกาสมหามงคลที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบในปีนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ ได้ร่วมกับ มูลนิธิพีซีเอส เพื่อพัฒนาสังคมในประเทศไทย จัดโครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา เพื่อช่วยเหลือค่ารักษาผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยทุกรายตลอดระยะเวลา 5 ปีอันเป็นการคืนความสุข ความหวังและรอยยิ้มให้ผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและศีรษะทั่วประเทศ

 

ศ.กิตติคุณ นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ กล่าวว่า ความพิการทางใบหน้าและกะโหลกศีรษะมีหลายแบบ ตามแต่ความรุนแรงของความพิการ หลายคนเคยได้ยินอาการปากแหว่งเพดานโหว่ โรคงวงช้าง ฯลฯ แต่ความพิการของคนไข้บางรายอาจมีถึงอาการกระบอกตาห่างหรือต่างระดับ การรักษาความพิการทางใบหน้าและกะโหลกศีรษะจึงเกี่ยวเนื่องกับแพทย์หลายสาขาวิชา สำหรับศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงมีแพทย์ที่ร่วมกันถึง 12 สาขา นับได้ว่าเป็นหน่วยงานทางการแพทย์สากลที่ช่วยเหลือปัญหาความพิการของใบหน้าและศีรษะรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในระดับสากลเราถือว่าเป็นผู้นำด้านนี้ โดยเฉพาะการผ่าตัดรักษาโรคงวงช้าง ที่ทั่วโลกรู้จักในนาม “Chula Technique”

 

รศ.นพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์ รองหัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ กล่าวว่าในโอกาสมหามงคลที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ ในปีนี้ ทางศูนย์ได้จัดให้มีโครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา เพื่อขยายความช่วยเหลือออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ตั้งเป้าช่วยเหลือผู้พิการทางใบหน้าและศีรษะจำนวนอย่างน้อย 200 คน ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งทางโครงการจะช่วยเหลือแบบครบวงจรทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาผ่าตัด ค่าเดินทาง ที่พัก การฝึกพูด การจัดฟัน ฯลฯ โดยผู้ป่วยที่สนใจสามารถติดต่อรับการรักษาผ่านโครงการ ได้โดยตรงที่ศูนย์หรือขอรับการรักษาผ่านเหล่ากาชาดจังหวัดและโรงพยาบาลในภูมิภาค

 

นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพทางกายของผู้ป่วยแล้ว ทางศูนย์ยังคำนึงถึงสภาพจิตใจด้วย โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 เป็นต้นมาได้จัดโครงการชีวิตนี้ยังมีหวัง (Craniofacial Support Group) เพื่อให้คำแนะนำ ปรึกษา ให้ความรู้ความเข้าใจแบบเป็นกลุ่ม นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เป็นต้นแบบของการจัดกลุ่มผู้ป่วยช่วยเหลือกันเองสำหรับผู้มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ และยังจัดงานประจำปีขึ้นเป็นพิเศษในช่วงปิดเทอม ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 เป็นต้นมา เรียกว่า “งานวันพบปะครอบครัวผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่ และความพิการบนใบหน้าอื่นๆ” ปัจจุบันเรียกว่า “งานสนุกสุขสันต์วันพบปะ” หรือ Happy Family Day) ซึ่งเป็นงานสังสรรค์สำหรับผู้ที่มีความพิการใบหน้าและกะโหลกศีรษะโดยเฉพาะเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะเด็กและครอบครัวได้มาพบปะสังสรรค์กัน เสมือนเป็นวันเด็ก ได้เยี่ยมชมสถานที่ที่น่าสนใจ มีวิทยากรให้ความรู้ ได้รับของแจกของที่่ระลึกมากมาย ทำให้เขาเหล่านี้รู้สึกว่าเขาก็มีโอกาสทางสังคมเช่นเดียวกับคนอื่น

 

ด้าน นายธนา ถิรมนัส ประธานกรรมการมูลนิธิพีซีเอส เพื่อการพัฒนาสังคมในประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการโอซีเอสภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนในกิจกรรม “สนุกสุขสันต์วันพบปะ ครั้งที่ 5” (Happy FamilyDay 2015) ถือเป็นครั้งที่ 2 ของเรา นอกจากนี้ทางมูลนิธิยังมีโครงการเข้ามาช่วยปรับปรุงพื้นที่ผู้ป่วยเด็กและผู้ปกครองระหว่างนั่งรอพบแพทย์ บริเวณหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ที่มีบรรยากาศรื่นรมย์ระหว่างนั่งรอพบแพทย์ได้ภายในปี 2559 ที่จะถึงนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของมูลนิธิพีซีเอส ที่ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของมูลนิธิ ในการทำความดีเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม การได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ คือหลักฐานพิสูจน์ว่าโครงการของศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นโครงการที่ดีมาก

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 6 มกราคม 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก