ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ก้าวสู่ "ประชาคมอาเซียน" อย่างเป็นรูปธรรม "สุรินทร์" อดีตเลขาธิการฯเชื่อไทยปรับตัวได้

วันที่ลงข่าว: 02/01/16

อดีตเลขาธิการอาเซียนเชื่อ ไทยปรับตัวรักษาความได้เปรียบหลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้ แนะเร่งปรับจุดอ่อนด้านการเมือง การศึกษา และระบบราชการ

 

ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2559  เป็นวันที่ประเทศในกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ ก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนบอกบีบีซีไทยว่า การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แม้จะส่งผลให้มีการแข่งขันกันมากขึ้นระหว่างชาติสมาชิก แต่เชื่อว่าประเทศไทยในฐานะที่เป็นระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียนและมีความหลากหลายที่สุด น่าจะปรับตัวรับประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการที่สูงขึ้นได้ นอกจากนั้นไทยยังมีข้อได้เปรียบเรื่องของตลาดอาหาร ตลาดรถยนต์ ตลาดพืชผลการเกษตร ซึ่งจำเป็นจะต้องหาทางรักษาความได้เปรียบนี้เอาไว้

 

 

อย่างไรก็ตาม ดร. สุรินทร์กล่าวว่า ไทยยังมีจุดอ่อนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในเรื่องการเตรียมความพร้อมของประชาชน เช่นในเรื่องภาษา การศึกษา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ทั้งระบบต่าง ๆ ก็ค่อนข้างจะหละหลวมอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นระบบราชการหรือระบบการเมือง ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องมีความมั่นคง มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและโปร่งใสกว่าที่เป็นอยู่ แต่ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีปัญหาเหล่านี้ ภาคีอาเซียนอีกหลายประเทศก็เผชิญปัญหาที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขคล้ายกัน 

 

" การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมีข้อดีหลายด้าน คือตลาดของไทยจะกว้างขึ้น แทนที่จะเป็นตลาดสำหรับประชากร 67 ล้านคน ก็จะกลายเป็นตลาดที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคน เงินลงทุนจากภูมิภาคอื่นจะเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น ทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์ หากเงินลงทุนดังกล่าวไม่มาที่ไทยโดยตรง ก็ยังเป็นการลงทุนในเขตเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีส่วนได้รับผลประโยชน์ต่อเนื่องได้ " ดร. สุรินทร์กล่าว

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์มมติชนออนไลน์ วันที่ 2 มกราคม 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก