ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ต้นกล้าตากล้องท่องกาญจนบุรี แด่น้องผู้บกพร่องทางการได้ยิน

วันที่ลงข่าว: 24/11/15

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้รับการเชิญชวนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและบริษัทมิราเคิลดรีมไทยแลนด์เข้าร่วมโครงการต้นกล้าตากล้องครั้งที่ 25 แด่น้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน ณ โรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ตั้งอยู่ในเขตอำเภอดุสิด กรุงเทพฯ

 

โรงเรียนเศรษฐเสถียรเป็นโรงเรียนรัฐบาลสังกัดกองการศึกษาเพื่อคนพิการ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนคนหูหนวกแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่จัดการสอนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เป็นผู้นำทางด้านการพัฒนาวิชาการ และวิชาชีพให้เต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล โดยมุ่งให้นักเรียนทุกคนมีวินัยและคุณธรรมบนพื้นฐานวัฒนธรรมไทยมีทักษะในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีบริหารจัดการตนเองให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

 

สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 ให้กับเยาวชนและนักเรียนในจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยโดยผ่านทางภาพถ่าย อาทิ ภาพวิถีชีวิต, วัฒนธรรม, ประเพณีไทยและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้นักเรียนและเยาวชนเกิดจิตสำนึกในการรักและหวงแหนวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตแบบไทยๆ ในท้องถิ่นของตนเอง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความรู้ในเรื่องการถ่ายภาพให้แก่นักเรียนและเยาวชนในการถ่ายภาพวัฒนธรรมประเพณีไทยและวิถีชีวิตโดยผ่านทาง Social Network

 

โครงการต้นหญ้าตากล้อง….ท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 25 โดยมีนักเรียนน้องๆ ผู้ด้อยโอกาสทางการได้ยินเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จำนวน 50 คน ด้วยกัน ในส่วนของกิจกรรมในตอนเช้าของวันแรกเริ่มต้นขึ้นโดยได้รับเกียรติ์จากคุณปานจิตร สันทัดกลการผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพให้เกียรติ์เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดโครงการในครั้งนี้ที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร เขตอำเภอดุสิตกรุงเทพ จากนั้นได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในการถ่ายภาพมาให้ความรู้และเทคนิคในการถ่ายภาพอย่างไรให้สวย แก่น้องๆ ผู้ผู้บกพร่องทางการได้ยินที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้โดยผ่านทางอาจารย์ของโรงเรียนฯที่ทำหน้าที่เป็นล่ามทางภาษามือให้กับครูผู้ฝึกสอน

 

  จากนั้นในเช้าของวันรุ่งขึ้นทางโครงการต้นกล้าตากล้องได้พาบรรดาน้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยินเดินทางมายังสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อโดยสารรถไฟขบวนพิเศษมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อฝึกหัดถ่ายภาพภาคสนามโดยได้รับเกียรติ์จาก คุณสมชาย ชมพูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาค ภาคกลางเดินทางมาทำพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย

 

  สำหรับจุดหมายแห่งแรกที่ขบวนรถไฟหยุดแวะให้น้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน ฝึกหัดถ่ายภาพก็คือ องค์พระปฐมเจดีย์ในจังหวัดนครปฐม พระปฐมเจดีย์เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย อยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย การที่ได้ชื่อว่าพระปฐมเจดีย์นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงสัณนิษฐานว่า น่าจะเป็นพระเจดีย์เก่า กว่าพระเจดีย์อื่นๆ ในประเทศสยาม สันนิษฐานว่าสร้างสมัยทวาราวดี ตั้งอยู่ที่เมืองนครไชยศรีในสมัยก่อน ปัจจุบันอยู่ในอำเภอเมืองนครปฐม

องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำปากผายมหึมาโครงสร้างเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐถือปูนประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศกำแพงแก้ว 2 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็นประจำทุกปี จากนั้นก็พากันออกเดินทางต่อมายังสะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมปล่อยให้น้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน ฝึกหัดถ่ายภาพกับครูผู้ฝึกสอน ต่อไป 

 

จุดต่อมาคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวจีนญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่าซึ่งเส้นทาง ช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น 

 

การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบากความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกต้องเสียชีวิตลงเป็นจำนวนมาก หลังจากฝึกหัดถ่ายภาพกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงโดยสารรถไฟต่อไปจนถึงสถานีรถไฟท่ากิเลน แล้วขึ้นรถโดยสารต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีนั่นคือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นการศึกษาโบราณสถานที่ทรงคุณค่า มีอายุกว่า 800 ปี ได้เห็นถึงอิทธิพลของขอมในอดีตและเรียนรู้ความเป็นมาจากสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทขอม

 

จุดหมายสุดท้ายก็คือ ถ้ำกระแซะตั้งอยู่ใน อ.ไทรโยค ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่พักของบรรดาเหล่าเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ จากไทยไปพม่า ปากถ้ำอยู่ติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี–น้ำตก ซึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 

 

ปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานีรถไฟน้ำตก ภายในถ้ำโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐาน ถ้ามองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟ จะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา เบื้องล่างเป็นแม่น้ำแควน้อย และที่บริเวณสถานีรถไฟถ้ำกระแซะแห่งนี้ถือว่า เป็นจุดสุดท้ายของการฝึกหัดถ่ายภาพ

 

จากนั้นจึงพาน้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยินเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษมุ่งหน้ากลับสู่สถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ

เช้าของวันรุ่งขึ้นเดินทางกลับมายังโรงเรียนเศรษฐเสถียร เพื่อให้คณะกรรมการทำการตัดสินภาพถ่ายที่เหล่าน้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยินที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้ทำการส่งภาพที่ตนเองถ่ายเข้าประกวดหลังจากที่คณะกรรมการได้ทำการพิจารณาภาพถ่าย พร้อมตัดสินภาพผู้ที่ได้รับรางวัลต่างๆ แล้ว จากนั้นคุณสมชาย ชมพูน้อยผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาค ภาคกลางได้ให้เกียรติ์เดินทางมาทำการมอบรางวัลชนะเลิศและรางวัลที่ 2, 3 พร้อมรางวัลชมเชยให้กับเหล่าน้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยินตามลำดับ สร้างความประทับใจให้กับเหล่าน้องๆ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้เป็นอย่างมาก พร้อมกับปลุกจิตสำนึกเยาวชนให้รักและหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในถิ่นฐานของตนเองอีกด้วย

 

  ขอขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและบริษัท มิราเคิล ดรีม (ไทยแลนด์) โทรศัพท์ 08-0557-1976 และการรถไฟแห่งประเทศไทย

 สุเทพ พวงมะโหด เรื่อง/ภาพ

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2558
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก