ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“บิ๊กตู่” หวังเรียนรู้จัดการน้ำ ป่าไม้ พัฒนา ศก.ดิจิตอลเกาหลี

วันที่ลงข่าว: 23/11/15

นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - เกาหลีใต้ สนับสนุนนำแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ไปดำเนินการตามปฏิญญาร่วม หนุนใช้ประโยชน์เอฟทีเอเต็มศักยภาพ หวังบรรลุเป้าการค้า 2 แสนล้านดอลลาร์ อยากเรียนรู้ประสบการณ์จัดการน้ำ และป่าไม้ พัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล ขอแลกเปลี่ยนเยาวชน อบรมนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ ชวนนักธุรกิจแสวงหาโอกาสลงทุน แนะเพิ่มบทบาทเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน ชมข้อริเริ่มสันติภาพเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ 

       

       วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ Conference Hall 1 ชั้น 3 ศูนย์การประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 15.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมผู้นำชาติอาเซียน และนางสาวปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 17 เพื่อร่วมกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียน กับ สาธารณรัฐเกาหลี และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาค ในที่ประชุมมีการส่งเสริมการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2559 - 2563) โดยที่ผู้นำอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือให้บรรลุเป้าหมาย

       

       ภายหลังการประชุม พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่อาเซียน และสาธารณรัฐเกาหลี มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้น โดยเฉพาะความร่วมมือบนพื้นฐานของกรอบและกลไกที่มีอยู่ โดยสนับสนุนให้นำแผนปฏิบัติการอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ เพื่อดำเนินการตามปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและความรุ่งเรือง รวมทั้งการนำผลการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ที่เมืองปูซาน เมื่อปีที่แล้วไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม

       

       ในด้านเศรษฐกิจ ไทยสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ให้เต็มศักยภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 และเร่งรัดการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ค้าขายกันได้มากขึ้น มีอุปสรรคน้อยลง และบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

       

       ความสำเร็จด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นแรงบันดาลใจของหลายประเทศ ไทยจึงหวังที่จะเรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศในสาขาที่สาธารณรัฐเกาหลีมีความเชี่ยวชาญ เช่น การบริหารจัดการน้ำและป่าไม้ที่ยั่งยืน การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล และเทคโนโลยีสารสนเทศ ไทยขอสนับสนุนให้สาธารณรัฐเกาหลีส่งเสริมโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน และการฝึกอบรมแก่นิสิตนักศึกษา และเจ้าหน้าที่ของประเทศสมาชิกอาเซียน

       

       นอกจากนี้ ไทยขอเชิญชวนนักธุรกิจเกาหลี โดยผ่านสภาธุรกิจอาเซียน - เกาหลีใต้ ในการแสวงโอกาสจากการที่อาเซียนจะกลายเป็นประชาคมที่เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งภูมิภาคแห่งนี้เป็นแหล่งภาคธุรกิจเอกชนและฐานของ SMEs ที่มีศักยภาพในตลาดโลก

       

       ในเรื่องความเชื่อมโยงในภูมิภาค ไทย และอาเซียน สนับสนุนให้สาธารณรัฐเกาหลีมีบทบาทมากขึ้นในการปฏิบัติตาม MPAC (Master Plan on ASEAN Connectivity หรือ แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงถึงกันแบบไร้รอยต่อในภูมิภาค โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ การแสวงหาทุนจากแหล่งต่าง ๆ และการลงทุนในรูปแบบหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชน

       

       ในเรื่องความมั่นคงในภูมิภาค นายกรัฐมนตรียินดีต่อพัฒนาการในเชิงบวกในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ไทยชื่นชมข้อริเริ่มของประธานาธิบดี ปัก กึน-ฮเย ในเรื่องความร่วมมือและสันติภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (NAPCI : แนปซี่) และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีที่กรุงโซล ไทยพร้อมสนับสนุนกระบวนการนี้ เพราะสำคัญต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เป้าหมายของ NAPCI (แน็ปซี่) สอดคล้องกับเป้าหมายของอาเซียน จึงควรแสวงหาแนวทางเพื่อให้ทั้งสองภูมิภาคสนับสนุนซึ่งกันและกันให้มากยิ่งขึ้น โดยที่ภูมิภาคนี้ ยังเผชิญกับปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่ และความท้าทายใหม่ นายกรัฐมนตีจึงได้เชื้อเชิญให้สาธารณรัฐเกาหลีใช้ประโยชน์จากกลไกใหม่ ๆ ของอาเซียนในการรับมือกับปัญหาดังกล่าวโดยตรง เช่น สำนักงาน ป.ป.ส. อาเซียน และศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน 

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2558
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก