ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

2ล้อไทยยกระดับขึ้นกลุ่มหนึ่ง เสธหมึกมั่นใจปั้นนักกรีฬาไปสู่อาชีพ

วันที่ลงข่าว: 28/09/15

ว่าที่ พล.อ.ดร.เดชา เหมกระศรี เลขาธิการสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เผยว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ศูนย์การประชุมเกรทเพอร์ เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา โดยมี มร.ไบรอัน คุกสัน ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ เป็นประธานในการประชุม โดยมีสาระสำคัญดังนี้คือ การทบทวนธรรมนูญของยู.ซี.ไอ. ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการที่เข้าไปทำงานในสหพันธ์ฯ นั้นมีแต่ชาติยุโรป น่าจะมีตัวแทนของทวีปต่างๆ คือ เอเชีย, แอฟริกา, อเมริกา, อเมริกาใต้ เข้าไปทำงานบ้าง และในที่ประชุมได้รับเรื่องไว้พิจารณา โดยผลของการพิจารณาจะทราบในปีการประชุมใหญ่ประจำปี 2559 ที่ นครโดฮา ราชรัฐกาตาร์ ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานถนนชิงแชมป์โลก ในปี 2559

 

นอกจากนั้น ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาประเทศเจ้าภาพจัดแข่งชิงแชมป์โลกระหว่างปี 2559-2561 โดยที่ประชุมอนุมัติ ประเทศดังต่อไปนี้เป็นเจ้าภาพจัดแข่ง มีเมืองมอนติเชียรี อิตาลี เจ้าภาพการจัดการแข่งขันจักรยานลู่คนพิการชิงแชมป์โลก ปี 2559,เมืองปีเตอร์มาริตซ์เบิร์ก แอฟริกาใต้ นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เจ้าภาพการจัดการแข่งขันจักรยานถนนคนพิการชิงแชมป์โลก ปี 2560, เจ้าภาพการจัดการแข่งขันจักรยานลู่มาสเตอร์ชิงแชมป์โลก ปี 2560-2561

 

พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มอบรางวัลบุคคลที่สมควรได้รับรางวัลคุณงามความดีของยู.ซี.ไอ.ทั้งหมด 8 คน รวมทั้ง มร.ชอย บู วูง เลขาธิการสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย ก็ได้รับรางวัลนี้ด้วย หลังจากที่ “เสธ.หมึก” เคยได้รับรางวัลนี้มาแล้วเมื่อปี 2554 ส่วน

รางวัลบุคคลทรงคุณค่าของสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย ที่ว่าที่ พล.อ.ดร.เดชา ได้รับนั้นทางสมาพันธ์ฯ จะจัดมอบรางวัลระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค. 2559 ปีหน้าที่มหานครโตเกียว ญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับการแข่งขันจักรยานถนนและลู่ชิงแชมป์เอเชียประจำปี 2559

 

นอกจากนั้นยังมีประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยฯ คือ การปรับให้สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ขึ้นจากกลุ่ม 2 มาอยู่กลุ่ม 1 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง สามารถจัดการแข่งขันระดับนานาชาติได้จนประสบความสำเร็จ ถือเป็นความสำเร็จของสมาคมอีกขั้น ที่สามารถพัฒนานักกีฬา จนสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ปรับให้มาอยู่ในกลุ่ม 1 แต่ผลของการปรับมาอยู่กลุ่ม 1 คือเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะตามมาจากเดิมที่เสียค่าบำรุงปีละ 300 เหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 3,200 เหรียญสหรัฐต่อปี ถือเป็นงานหนักของสมาคมจักรยานฯ ไม่น้อยกับการปรับขึ้นมาอยู่กลุ่ม 1

 

เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดแข่งแมทช์นานาชาติไม่ว่าจะเป็นทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์, ชิงแชมป์เอเชีย จะมีวงเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวแต่เมื่อได้รับความไว้วางใจให้มาอยู่ในกลุ่ม 1 แล้วก็ต้องทำให้ได้ซึ่งเรื่องงบประมาณสมาคมคงต้องหาเองบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเข้ามาสนับสนุนให้มากกว่าที่เป็นอยู่แต่ก็เชื่อว่าเป็นการพัฒนาให้นักปั่นของไทยทั้งชายและหญิงไปสู่นักปั่นอาชีพเต็มรูปแบบในอนาคต

 

 

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 26 กันยายน 2558
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก