ชาวเน็ตจีนยกย่องหัวใจผู้ไม่แพ้ ของชายผู้สูญเสียแขนทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุ ถูกภรรยาทิ้งให้ดูแลลูกแรกเกิดเพียงลำพัง สู้ฝ่าฟันชีวิตจนได้เป็นครูผู้ช่วยในโรงเรียนประถม

       

 

       นายเจียง เชิงฟา วัย 41 ปี อาชีพครูในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองเจาทง มณฑลอวิ๋นหนัน ได้เสียแขนทั้งสองข้างไปตั้งแต่ปี 2539 จากอุบัติเหตุระหว่างการซ่อมลวดไฟฟ้า หลังจากเกิดเหตุ เขาสูญเสียความสามารถทำงานไปอย่างสิ้นเชิง และต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดในการรักษาตัวในโรงพยาบาล พายุกรรมยังกระหน่ำซัดต่อ เมื่อภรรยาสุดรักได้ทิ้งเขาไป และทิ้งลูกน้อยแรกเกิดไว้ให้เขาดูแล

       

       เขาต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด โดยการออกไปนั่งขอทานตามเมืองใหญ่ๆเช่น ก่วงโจว, ฉงชิ่ง และฝากให้แม่ของเขาช่วยดูแลลูกน้อยแทนตนเอง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนเมื่อแม่ของเขาก็ได้จากเขาไปสู่สุขคติหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี ทำให้เขาต้องพาลูกไปฝากพี่ชายเลี้ยง เขาต้องใช้ชีวิตอย่างลำเค็ญ มีเงินเพียงพอสำหรับการทานอาหารเพียงวันละมื้อเท่านั้น

       

       เขาค่อยๆเรียนรู้ที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปโดยไร้แขนทั้งสองข้าง หลังจากนั้นจึงได้เดินทางกลับบ้านเกิด และได้ผันตัวเข้าสู่วงการวิชาชีพครู โดยโรงเรียนประถมในหมู่บ้านได้ยื่นโอกาสให้เขาได้สอนหนังสือให้แก่นักเรียนฯในฐานะครูสอนแทน เวลาที่ครูประจำไม่สามารถมาสอนได้ตามปกติ และเขาก็ตั้งใจสอนหนังสือมาจนปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 12 ปี

       

       คุณครูผู้ไม่ยอมแพ้ ใช้ปากพลิกหน้าหนังสือ และเขียนหนังสือบนกระดานดำได้โดยผูกชอร์คไว้กับโคนแขนขวา นอกจากนี้เขายังสามารถเขียนพู่กันจีนได้อย่างสวยงามโดยใช้โคนแขนเช่นเดียวกัน

       

       เด็กชายเฉิน ยี่ถิง นักเรียนชั้นประถมสี่ของโรงเรียนฯ กล่าวว่าคุณครูเจียงเป็นคนยิ่งใหญ่ ครูทำให้พวกเราเห็นว่าเราจะเชื่อมั่นในตัวเองได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเขาจะสูญเสียแขนทั้งสองข้างไป แต่เขาก็มีลายมือสวยที่สุดในโรงเรียน และยังเป็นนักเขียนพู่กันชั้นเอกอีกด้วย

       

       ครูเจียงระบุว่า สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตข้อหนึ่งคือ จงอย่าตัดพ้อในโชคชะตา และให้มองชีวิตในแง่ดีเข้าไว้ ชีวิตของเขาไม่เคยง่าย แต่ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ทุกครั้ง กำลังใจส่วนใหญ่ของเขามาจากเด็กๆ ครอบครัว และผู้คนดีๆรอบตัว โดยเขารู้สึกมีความสุขดีกับชีวิตในปัจจุบัน

       

       สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนันเคยส่งเทียบเชิญมาทาบทามคุณครูหัวใจยอดนักสู้ และเสนอเงินเดือนที่สูงกว่า แต่เขากลับปฎิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเขามีความสุขมากกว่าที่จะได้อยู่กับเด็กๆในหมู่บ้านอันเป็นบ้านเกิดของเขา แม้จะเป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนก็ตาม