ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร มอบอุปกรณ์เครื่องมือตัดผมให้กับครอบครัวยากจนที่ผ่านการอบรมนำไปประกอบอาชีพ

วันที่ลงข่าว: 07/09/15

วันที่ (5 ก.ย.58) นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานมอบวัสดุ อุปกรณ์ตัดผมชาย ให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมในโครงการฝึกอาชีพช่างตัดผมแก่ครัวเรือนเป้าหมายที่ประสบปัญหาความเดือนร้อนยากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา จังหวัดมุกดาหาร รุ่นที่ 2 จำนวน 20 คน ที่ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน.มุกดาหาร

จังหวัดมุกดาหาร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กำหนดยุทธศาสตร์การปฏิบัติราชการ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อมุ่งให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกกลุ่มปัญหา ทุกพื้นที่ แบบเบ็ดเสร็จ เป็นรูปธรรม โดยการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาคนและสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพให้แก่ครอบครัวเป้าหมายที่ยากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร จึงมีนโยบาย ให้การฝึกอบรมช่างตัดผม ให้แก่ครัวเรือนเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนให้ครัวเรือนที่ประสบปัญหาความเดือนร้อนมีอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคงสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีปกติสุข หน่วยงานที่สนับสนุนโครงการได้แก่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร สำนักงานส่งเสริมการศึกษานออกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดมุกดาหาร ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนมุกดาหาร และกองทุนช่วยเหลือผู้ยากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา

ในโอกาสเดียวกันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้มอบวัสดุ อุปกรณ์การตัดผม ให้กับผู้ผ่านการอบรมในรุ่นที่ 2 ทั้ง 20 คน มีอำเภอดอนตาล 7 คน อำเภอนิคมคำสร้อย 6 คน อำเภอคำชะอี 5 คน และอำเภอหนองสูง 2 คน หลังจากใช้เวลาในการอบรม 3 วัน มีความรู้และทักษะสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ พร้อมกับกล่าวเป็นกำลังใจให้ผู้ผ่านการอบรมได้นำอุปกรณ์ที่ได้รับไปใช้ประกอบอาชีพ ตามที่ได้รับการฝึกอบรม ด้วยความขยัน อดทน และนำเงินที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัวก็จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และหากพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องสามารถทำเป็นอาชีพสร้างรายได้ ยกฐานะความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัวดียิ่งขึ้น ขอเพียงขยัน ประหยัด อดออมใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ต่อการดำรงชีวิตและขอให้ภูมิใจในอาชีพตัดผม เพราะนอกมีรายได้ ยังเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยไม่อนุญาตให้ต่างชาติทำได้

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก