พระบรมฯทรงนำขบวน ปั่น40โลรับสั่งไม่เหนื่อย

แต่งสีฟ้าพรึบทั่วถิ่นไทย ทรงพระเจริญดังกึกก้อง 

 

 

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นประธานเปิดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหา และทรงนำขบวนพสกนิกรจากลานพระราชวังดุสิต ถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยมีพสกนิกรชื่นชมพระบารมี พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ตลอด 2 ข้างทาง ก่อนทรงมีรับสั่ง “ไม่เหนื่อยเลย ปั่นแบบสบายๆ ทรงปลาบปลื้มพระทัยมากที่ประชาชนมาร่วมกิจกรรมและมาเฝ้าฯ รับเสด็จ” ขณะที่ 76 จังหวัดสุดคึกคักร่วมกิจกรรม ด้านจังหวัดชัยนาทสร้างสถิติยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนภูมิภาคสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

 

 

 

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ส.ค.58 ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นจุดปล่อยตัว “กิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ ต่างปั่นจักรยานคู่ใจมาลงทะเบียนตามจุดที่กำหนดต่างๆ กันอย่างคับคั่ง ทั้งนี้นักปั่นต้องจำเลขรหัสที่ลงทะเบียนไว้ พร้อมกับบัตรประชาชนได้ทำการลงทะเบียน ซึ่งเจ้าหน้าที่แจกบัตร 2 ใบ คือใบแรกใช้คล้องคอจะมีบาร์โค้ดเพื่อบันทึกเป็นสถิติโลก หรือกินเนสส์บุ๊ค เวิลด์ เรคคอร์ด ส่วนบัตรใบที่สองจะใช้ติดกับจักรยาน รวมถึงประชาชนทั่วไปสวมเสื้อสีฟ้าติดเข็มพระราชทานมาจับจองพื้นที่บนฟุตบาทสองฝั่งถนนศรีอยุธยา เส้นทางขบวนจักรยานไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ เพื่อเฝ้ารับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานพระที่นั่งนำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกจากจุดเริ่มต้นพระลานพระราชวังดุสิต

 

 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้นำอาหาร ขนมของว่าง และน้ำดื่มพระราชทาน มาบริการให้กับประชาชนฟรีตามจุดต่างๆ ทั้งด้านนอกและด้านในบริเวณสนามเสือป่าประมาณ 30 ซุ้ม เช่น ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ กวยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ผัดไทย หอยทอด ข้าวหน้าไก่ และข้าวยำ เป็นต้น โดยประชาชนบางส่วนแวะดื่มน้ำรับประทานอาหารเติมพลัง บางส่วนยกโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเซลฟี่กับพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อย่างคึกคัก โดยทุกคนต่างทักทายโอภาปราศรัยกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

 

 

กระทั่งเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำแผงเหล็กมากั้นถนนเพื่อปิดการจราจรรอบพระลานพระราชวังดุสิต ถนนอู่ทองใน ถนนศรีอยุธยา ถนนราชดำเนินนอก ไม่อนุญาตให้รถยนต์ขนาดใหญ่ผ่าน และทำการซักซ้อมลำดับขั้นตอนพิธีการต่างๆ เสมือนจริงซ้ำอีกครั้ง โดยมี พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ เป็นผู้รายงานลำดับขั้นตอนพิธีการต่างๆ ขณะที่ประชาชนที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนล่วงหน้า ประสงค์จะเข้าร่วมขบวนปั่นจักรยานให้ไปลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่บริเวณสนามหลวง ด้าน ม.ธรรมศาสตร์ เพื่อต่อท้ายขบวนปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ขบวนปั่นจักรยานฯ จะเริ่มจากแยกพระลานพระราชวังดุสิต ไปตามถนนศรีอยุธยา เลี้ยวซ้ายแยกพญาไท ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลี้ยวขวาไปสามเหลี่ยมดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดี-รังสิต ผ่านหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ไปตามถนนวิภาวดี-รังสิต เลี้ยวขวาเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกประตูมหาวิทยาลัย ด้านถนนพหลโยธิน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาเข้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ส่วนขากลับออกจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ย้อนกลับเส้นทางเดิม จบที่พระลานพระราชวังดุสิต รวมระยะทาง 43 กิโลเมตร

 

นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษโครงการ “ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่” กล่าวว่า วันนี้มาตรวจความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้ายตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้าไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จนถึงกรมทหารราบที่ 11 รวมทั้งตรวจการซักซ้อมพิธีต่างๆ ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยตั้งแต่เช้ามืดเห็นประชาชนหลั่งไหลเข้ามาจับจองพื้นที่ริมฟุตบาทตามเส้นทางเสด็จฯ เพื่อร่วมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเมืองไทย ความรักของลูกที่มีต่อแม่ให้เผยแพร่ไปทั่วโลก ที่น่าประทับใจที่สุดคือบริเวณกรมทหารราบที่ 11 ประชาชนที่อยู่จุดนี้จะได้เห็นภาพพาโนรามาชัดเจนที่สุด ผ่านจอแอลซีดีขนาดยักษ์

 

 

“ทั้งนี้มีผู้สนองงานใกล้ชิดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โทร.มาเล่าให้ฟังว่า พระองค์ทรงตื่นเต้นกับกิจกรรมที่ประชาชนทั่วเมืองไทยมาแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพร พระองค์ทรงปลาบปลื้มพระราชหฤทัยที่เห็นประชาชนตื่นตัว พระองค์จะทอดพระเนตรกิจกรรมครั้งนี้ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจตั้งแต่เวลา 14.00 น. กระทั่งเสร็จพิธี” นายสุริยัน กล่าว

 

 

ขณะที่บรรยากาศทั่วไทยคึกคักตั้งแต่เช้า พสกนิกรสวมเสื้อสีฟ้า เตรียมพร้อมร่วม กิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” โดยที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นจุดรับลงทะเบียนเข้ารับบาร์โค้ดประจำตัวสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อแม่” บรรยากาศเป็นไปอย่างคักคึก ประชาชน และนักปั่นจักรยานต่างทยอยกันมาลงทะเบียนกันอย่างไม่ขาดสาย โดยมีเจ้าหน้าที่ และนักเรียนจากโรงเรียนชัยนาทพิทยาคมรวมกว่า 300 คน มาเป็นผู้จัดทำบาร์โค้ด และอำนวยความสะดวก โดยมีนักปั่นลงทะเบียนยอดสูงถึง 8,761 คน เป็นอันดับ 1 ของประเทศในส่วนภูมิภาค ซึ่งหลังจากเวลา 14.00 น. จะมีการตั้งขบวนจักรยาน ณ จุดสตาร์ทบนถนนชัยณรงค์ เขื่อนเรียงหิน หน้าศาลหลักเมืองชัยนาท เพื่อรอประกอบพิธีเปิด และปล่อยขบวนจักรยานพร้อมกันทั่วประเทศ

 

ส่วนที่ หน้าเทศบาลตำบลแม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประชาชนเริ่มทยอยมาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว โดย นายคำปัน กาลิน อายุ 77 ปี ราษฎรบ้านปงของ ม.10 ต.แม่เงิน กล่าวว่า หลังจากทราบว่าจะมีการปั่นเพื่อแม่ ตนได้ไปหาซื้อรถจักรยานมาปั่นฝึกออกกำลังทุกวัน เพื่อจะให้กำลังอยู่ตัว จะได้ปั่นได้ไกลๆ ซึ่งวันนี้ตนจะปั่นทั้งไปทั้งกลับ โดยจะไม่ยอมขึ้นรถแน่นอน ขณะที่ ด.ช.ภูวเบศก์ อำขำ อายุ 5 ขวบ ที่มาร่วมปั่นกับ ด.ต.ทนงศักดิ์ ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ตนไปโรงเรียนทราบมาจากโรงรียนว่าจะมีการปั่นเพื่อแม่ในวันที่ 16 ส.ค. จึงได้มาบอกพ่อ จะขอร่วมปั่นจักรยานด้วย ซึ่งพ่อก็อนุญาตและซื้อจักรยานให้ 1 คัน เพื่อมาร่วมปั่นกับทุกคน 

 

ทางด้าน นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำทีมข้าราชการ และพสกนิกรชาวบุรีรัมย์ พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีฟ้า เข้าร่วมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ โดยมีนายวาด ปารานิน รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา นำคณะจำนวน 19 คน เริ่มสตาร์ตพร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 15.00 น. ระยะทางรวม 25.3 กิโลเมตร ขณะนี้ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 2,800 คน โดยคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทั้งชาวบุรีรัมย์และชาวกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนบรรยากาศที่ จ.ตราด บริเวณด้านข้างสนามหน้าศาลากลาง ได้มีประชาชนทยอยนำรถจักรยานมารับบริการตรวจซ่อมบำรุง ซึ่งทางวิทยาลัยเทคนิคตราดและวิทยาลัยสารพัดช่าง จ.ตราด ร่วมกันตั้งเต็นท์ ให้บริการแก่ประชาชนที่จะมาร่วมปั่นจักรยานฟรี ทั้งการเช็กอุปกรณ์ ปรับแต่งจักรยาน และซ่อมแซม เพื่อให้จักรยานของผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมมีความพร้อมมากที่สุด

 

ที่ จ.เชียงใหม่ มีประชาชนเริ่มทยอยมาลงทะเบียน เพื่อร่วมกิจกรรม “Bike for mom” ปั่นเพื่อแม่ โดยมีผู้มาลงทะเบียนล่วงหน้าไว้แล้วกว่า 7 พันคน และนักปั่น 2 พันคนแรกจะมีการจดบันทึกลงสถิติโลกของกินเนสส์บุ๊ก Guinness Book World Records โดยจักรยานทุกคันจะต้องติดบาร์โค้ดไว้ และจะต้องสแกนครั้งแรกที่จุดสตาร์ตเพื่อบันทึกจำนวนของจักรยาน และจะสแกนบาร์โค้ดอีกครั้งหนึ่งเมื่อถึงจุดสิ้นสุด ซึ่งถูกระบุไว้ว่าระยะทางต้องประมาณ 4 กิโลเมตรถึงจะได้ตามกติกาของ GUINNESS WORLD RECORDS ซึ่งจักรยานที่ปั่นเพื่อร่วมทำสถิติครั้งนี้จะต้องปั่นเป็นรูปแบบเหมือนขบวนพาเหรดไม่มีการขาดช่วงและไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป

 

ที่หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม และนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา หลายร้อยคนเดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวต่างบอกว่าต้องการเดินทางไปชมกิจกรรม “ปั่นเพื่อแม่” ใน กทม.เนื่องจากที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลกว่ากิจกรรม “ปั่นเพื่อแม่” ของไทยจะมีการลงบันทึกกินเนสส์บุ๊ค จึงทำให้นักท่องเที่ยวอยากเห็นความยิ่งใหญ่อลังการในครั้งนี้ด้วย จึงได้มีการนัดแนะกันเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ทำให้ จนท.ตม.จว.สระแก้ว ต้องนำล่ามกัมพูชาและล่ามชาวเวียดนามมาคอยประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม ส่วนการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและกัมพูชา ได้มีการหารเช่าเหมารถยนต์ตู้จากตลาดโรงเกลือ ไปส่ง กทม.หลายสิบคัน ทำให้รถตู้อรัญฯ-กทม.ไม่พอบริการนักท่องเที่ยวต้องรอรถกันนานกว่า 1 ชม.จึงสามารถหารถตู้มาเสริมรับเข้า กทม.ได้ คาดว่าวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 800 คน

ต่อมาเวลา 15.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน มายังพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ลานพระราชวังดุสิต โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะกรรมการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติและผู้เข้าร่วมกิจกรรม เฝ้าฯ รับเสด็จ จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพานพุ่ม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงวางพานพุ่ม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงกราบ

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ เปิดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ และทรงจักรยานพระที่นั่ง เพื่อทรงนำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ และได้มีการปล่อยลูกโป่งสีฟ้าพิมพ์คำว่า “ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่” จำนวน 1,000 ลูก

จากนั้นเวลา 15.07 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปยังพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ แล้วเสด็จฯ ไปยังบริเวณพิธีเปิด ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ Bike For Mom เส้นทางลานพระราชวังดุสิตถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไป-กลับเส้นทางเดิม รวมระยะทาง 43 กิโลเมตร เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ลงจากบริเวณพิธี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวาย TAG แด่สมเด็จพระบรมฯ และทูลถวายแด่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา

จากนั้นเวลา 15.15 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปยังจุดจอดจักรยานพระที่นั่ง ณ พื้นที่ขบวน A โดยในขบวน A ประกอบไปด้วยข้าราชบริพารในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐและเอกชน เป็นต้น จำนวน 200 คน ขณะเดียวกันพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปยังจุดจอดจักรยานพระที่นั่ง ณ พื้นที่ขบวน B ซึ่งผู้ร่วมตามเสด็จในขบวน B นั้นประกอบไปด้วยพระสหาย รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ อธิบดี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ฯลฯ จำนวน 200 คน ส่วนขบวน C นั้นประกอบด้วยประชาชนทั่วไป

 

ต่อมาเวลา 15.17 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงกดแตรสัญญาณเริ่มขบวนจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมทรงจักรยานพระที่นั่งนำขวบพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกจากจุดเริ่มต้นลานพระราชวังดุสิต ไปตามถนนศรีอยุธยา ถนนพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนราชวิถี ถนนดินแดง ถนนวิภาวดีรังสิตไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร โดยระหว่างนั้นพสกนิกรต่างเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ตลอดเวลาที่ทรงจักรยาน

จากนั้นเวลา 15.38 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ถึงกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต เสด็จฯ ไปยังบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยมีผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ กราบบังคมทูลถวายรายงาน ในเวลาต่อมาขบวนจักรยานของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จถึงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จากนั้นเวลา 15.45 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพานพุ่ม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงกราบ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงวางพานพุ่มทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงกราบ

 

จากนั้นเวลา 16.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติไปตามถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ต่อไปยังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร

จากนั้นเวลา 16.44 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยมีพสกนิกรรอเฝ้ารับเสด็จฯ ตั้งแต่เช้าเปล่งเสียงทรงพระเจริญ จากนั้นเสด็จฯ ไปยังบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยมีผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ฯ กราบบังคมทูลถวายรายงาน โดยทรงแย้มพระสรวล ก่อนเสด็จฯ เข้าสู่เต็นท์ที่ประทับพักพระอิริยาบถ ต่อมาเวลา 16.51 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถึงด้านหน้าพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

 

 

จากนั้นเวลา 16.53 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงวางพานพุ่มทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และทรงพระดำเนินไปยังอาคารทหารล้อมวัง ร.ศ. 123 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ฯ เสด็จฯ เข้าสู่ห้องประทับรับรอง เพื่อประทับพระราชอิริยาบถตามพระราชอัธยาศัย เพื่อให้ขบวนที่ตามมาได้จัดขบวน และผู้ที่เข้าร่วมขบวนตามมาได้พักผ่อน

จากนั้นเวลา 17.37 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ออกจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อทรงจักรยานพระที่นั่งนำขบวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ต่อไปยัง กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ อีกครั้ง ไปตามถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร โดยพสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จได้เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ตลอดช่วงที่ขบวน A ออกจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จากนั้นเวลา 17.41 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวน B ออกจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทรงพักประทับ ณ กรมทหารราบที่ 11 นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ได้เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลถามว่าเหนื่อยไหม ทรงมีรับสั่งว่าไม่เหนื่อยเลย ปั่นแบบสบายๆ แต่ช่วงขึ้นเนินลำบากนิดหน่อย เพราะต้องใช้กำลังมากขึ้น ทรงห่วงประชาชนเช่นกันว่าจะขึ้นไม่ได้ ทรงปลาบปลื้มพระทัยมากที่ประชาชนมาร่วมกิจกรรมและมาเฝ้าฯ รับเสด็จ แม้ไม่มีเจ้าหน้าที่คุมก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะตั้งใจมาถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

 

ต่อมาเวลา 18.15 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ถึงกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต เสด็จฯ ไปยังอาคารสโมสรนายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ เสด็จฯ เข้าสู่ที่ประทับรับรอง ประทับพระราชอิริยาบถ ตามพระราชอัธยาศัย ในเวลาต่อมาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จถึงอาคารสโมสรนายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ประทับพระอิริยาบถ

 

ต่อมาเวลา 18.47 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ออกจากกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ เพื่อทรงจักรยานพระที่นั่งนำขบวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ กลับสู่ลานพระราชวังดุสิต ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปยังสามเหลี่ยมดินแดง ถนนดินแดง ถนนราชวิถี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพญาไท ถนนศรีอยุธยา ถึงลานพระราชวังดุสิต ระยะทาง 7 กิโลเมตร โดยในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ทรงเปิดไฟหน้าจักรยานเพื่อให้แสงสว่าง โดยมีพสกนิกรที่เฝ้าฯ รับเสด็จเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” โดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นเวลา 18.51 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวน B ออกจากกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ

 

จากนั้นเวลา 19.09 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ถึงซุ้มประตู บริเวณลานพระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ระยะทาง 43 กิโลเมตร สำเร็จลุล่วงตามพระราชปณิธาน ท่ามกลางพสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จ สวมเสื้อสีฟ้า เปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างพร้อมเพรียง ต่อมาเวลา 19.14 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จถึงลานพระราชวังดุสิต เสด็จพระทับพระอิริยาบถ ณ พลับพลาพิธี

จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ เข้าเฝ้าฯ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการจัดงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ตามพระราชอัธยาศัย ทรงฉายพระรูปร่วมกับ นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการจัดงานฯ จากนั้น นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บริเวณสนามเสือป่า โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ออกจากลานพระราชวังดุสิตไปยังสนามเสือป่า

 

นิทรรศการเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บริเวณพื้นที่สนามเสือป่า สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดแห่งการรวมพลังของทุกภาคส่วน และประชาชนชาวไทยทั้ง 77 จังหวัด ก่อเกิดขึ้นเป็นเส้นทางที่ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายร่วมในการเป็น “เส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ ปั่นเพื่อแม่” แม่ของแผ่นดิน โดยเรียงร้อยถ่ายทอดลำดับเรื่องราวผ่านนิทรรศการ 8 เรื่อง  สำหรับนิทรรศการเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะจัดแสดงถึงวันที่ 22 ส.ค.นี้ ณ สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต และทอดพระเนตรการแสดงดนตรีจากนักดนตรี 3 เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศิลปากร และ ศิลปินจากค่ายเพลงต่างๆ  รวม 83 คน จำนวน 3 เพลง ประกอบด้วย 1. เพลงสมเด็จ 2. เพลงมหาวชิราลงกรณ์ และ 3. เพลงคิดถึง ก่อนที่จะเสด็จฯ กลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานการบันทึกสถิติโลกตามข้อกำหนดของการบันทึกสถิติ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด โดยจุดที่จะบันทึกสถิติสำคัญครั้งนี้อยู่ที่ด้านหน้าห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ บริเวณซอยราชวิถี 4 (ซอยพระนาง) ซึ่งเจ้าหน้าที่กินเนส เวิลด์ เร็คคอร์ด จะบันทึกตัวเลขผู้ปั่นจักรยาน Bike for Mom โดยเป็นการบันทึกสถิติจากขบวนจักรยานทั่วประเทศตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ทพร้อมกันและปั่นต่อเนื่อง 4 กิโลเมตร ซึ่งวิธีการจดบันทึกครั้งนี้จะใช้ระบบการสแกนบาร์โคดที่ติดอยู่กับตัวรถจักรยานด้วยโทรศัพท์มือถือระบบแอนด์ดรอยด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่นครไทเป ไต้หวัน บันทึกไว้สูงสุดอยู่ที่ 72,919 คัน

 

เมื่อเวลา 19.45 น. เว็บไซต์เฉพาะกิจเก็บสถิติ พบว่ามีนักปั่นที่เก็บสถิติเข้าสู่ระบบรวมทุกจังหวัด 146,290 คัน ประกอบด้วย ภาคเหนือ 19,450 คัน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 35,276 คัน, ภาคกลาง 46,986 คัน เฉพาะกรุงเทพมหานคร 2,538 คัน, ภาคตะวันตก 8,233 คัน, ภาคตะวันตก 14,330 คัน และภาคใต้ 22,015 คัน

 

รายงานข่าวแจ้งว่า "กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด" จะมอบรางวัลบันทึกสถิติโลกที่ 146,266 คัน ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บนเวทีคอนเสิร์ต "บทเพลงเพื่อแม่" ในเวลา 20.00 น. ณ บริเวณสนามหน้าสำนักพระราชวัง สนามเสือป่า

ที่ จ.พิษณุโลก พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบช.ภ.6 พร้อมเหล่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมกันนำจักรยานออกสตาร์ทที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ในกิจกรรมปั่นจักรยาน “BIKE FOR MOM 2015 ปั่นเพื่อแม่” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือระยะทาง 26 กม. ระยะทาง 22 กม. และระยะทาง 9 กม. จุดเริ่มต้นจากสนามหน้าศาลากลางจังหวัด ผ่านศาลหลักเมือง ข้ามสะพานนเรศวร ผ่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วิ่งไปตามถนนหมายเลข 12 ผ่านสี่แยกอินโดจีน เลี้ยวแยกซีพี จากนั้นปั่นกลับตามเส้นทางเดิม สิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ในส่วนของจังหวัดพิษณุโลกครั้งนี้ มีประชาชนมาลงทะเบียนร่วมปั่นจำนวน 5,850 คน โดยแบ่งเป็นลงทะเบียนรับบาร์โค้ดเพื่อบันทึกสถิติกินเนสส์บุ๊คจำนวน 3,000 คน และกลุ่มที่ร่วมปั่นทั่วไป 2,850 คน ขณะที่ ด.ช.วรรธนะ คำอินทร์ หรือน้องทาม อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดหนองนาดงกวาง อ.บางระกำ ที่พิการแขนทั้ง 2 ข้างตั้งแต่กำเนิด แต่มีความสามารถในการวาดภาพได้ร่วมปั่นจักรยาน Bike for Mom ขึ้นสะพานนเรศวร ผ่านหน้าวัดพระศรีรัตนธาตุวรมหาวิหารในครั้งนี้ด้วย