กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 8 “สุขภาพผู้สูงอายุไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน 2015” ระดมสมองทุกภาคส่วนพร้อมเคลื่อนสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ และเปิดบ้านแลกเปลี่ยนการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุจากประเทศอาเซียน อาทิ จีน กัมพูชา เวียดนาม และลาว

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการแถลงข่าวการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 8 “สุขภาพผู้สูงอายุไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน 2015” ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า จากสถานการณ์สุขภาพผู้สูงอายุไทย สำรวจโดยกรมอนามัย ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ในปี 2556 พบว่าผู้สูงอายุมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ร้อยละ 26 เช่น ออกกำลังกายทุกวัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ขณะที่ผู้สูงอายุ 9.2 ล้านคน หรือ 95% ป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง 41% เบาหวาน 10% เข้าเสื่อม 9% ซึมเศร้า 1% เป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง 1% และผู้พิการ 6% ในจำนวนนี้เข้าถึงระบบบริการสุขภาพได้เพียง 57% โดยยังพบว่าผู้สูงอายุ 50% มีภาวะอ้วนหรือเป็นโรคอ้วน ทำให้การเดินลำบากยิ่งขึ้น และพบผู้สูงอายุอยู่คนเดียว 6 แสนคน 

ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยได้เตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยจัดระบบสร้างเสริมสุขภาวะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงรวมถึงผู้ป่วยในระยะสุดท้ายของชีวิต โดยจัดให้มี Care giver และ Care manager ในสัดส่วน Care manager 1 คน ต่อ Care giver 5-7 คน และ Care giver 1 คน ต่อผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง 5-7 คน รวมทั้งส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนเห็นความสำคัญของโถส้วมแบบนั่งราบสำหรับผู้สูงอายุเพื่อป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมจากการใช้โถส้วมแบบนั่งยอง และกำหนดให้ส้วมสาธารณะมีโถส้วมแบบนั่งราบอย่างน้อย 1 ที่ ไว้ให้บริการผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและเข้าถึงบริการตามความจำเป็นได้ง่าย ทันเวลา 

“สำหรับการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 8 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-7 สิงหาคม 2558 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “สุขภาพผู้สูงอายุไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน 2015” เพื่อพัฒนาศักยภาพของภาคีเครือข่าย บุคลากรจากสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งประชาชนให้มีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และนวัตกรรมต่างๆ โดยครอบคลุมการสร้างสุขภาพในกลุ่มวัยผู้สูงอายุและบริบทที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมเฉลี่ยวันละ 1,500 คน นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศ อาทิ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน รวมประมาณ 40 คน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว 

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมวิชาการฯ ครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนให้นักวิชาการร่วมผลิตผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างสุขภาพดีให้กับคนไทยทุกกลุ่มวัย โดยในปี 2558 มีการนำเสนองานวิจัยและนวัตกรรม จำนวน 121 เรื่อง แบ่งเป็นรูปแบบการนำเสนอด้วยวาจา จำนวน 30 เรื่อง และโปสเตอร์ จำนวน 91 เรื่อง รวมทั้งการเสวนาและบรรยายที่น่าสนใจ อาทิ เรื่อง สังคมไทย สังคมสูงวัย...เตรียมพร้อมอย่างไรสู่ AEC สองวัย หัวใจเดียวกัน : บูรณาการโรงเรียนผู้สูงอายุ & โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ Healthy & Fresh in The Golden Age ระบบบริการส่งเสริมสุขภาพในทศวรรษหน้า ชุมชนร่วมใจผู้สูงวัยปลอดภัย สุขภาพดี Future vision for oral health in ageing society ผู้สูงวัยกินดี มีสุข การให้บริการการยุติการตั้งครรภ์ รู้ทันโรคร้ายภัยใกล้ตัวจากของใช้ไฮเทค มารู้จักภาวะเป็นหนุ่ม/สาวก่อนวัยกันเถอะ ความคุ้มค่าและการนำวัคซีน HPV มาใช้ในประเทศไทย คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ช่วยได้ด้วยการออกกำลังกายจริงหรือ? และนิทรรศการความรู้ เช่น เคล็ดลับอายุยืน 100 ปี ชีวีมีสุข : ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้ อาหารสำหรับผู้สูงอายุ เรื่องเพศคุยได้ในครอบครัว การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ ฟันเทียมพระราชทานและสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ นวัตกรรมเพื่อทันตสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ

“กรมอนามัยยังถือโอกาสนี้ มอบรางวัล Princess Health Award เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติ บุคคลที่มีผลงานเด่นถือเป็นต้นแบบระดับชาติและนานาชาติ จำนวน 5 ท่าน ได้แก่ ศ.(พิเศษ) ทญ.ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช น.พ.วีระ นิยมวัน นายทรวง เหลี่ยมรังสี Professor Michael Bruce Zimmermann และ Ms.Zhao Lijun และรางวัลบุคคล และองค์กรต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ได้แก่ นักบริหารต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม นักวิชาการต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม นักประชาสัมพันธ์ต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัย ศิลปินต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม องค์กรต้นแบบด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรต้นแบบด้านภาครัฐ องค์กรต้นแบบด้านภาคประชาชน องค์กรต้นแบบด้านสื่อสารมวลชน และองค์กรต้นแบบด้านหน่วยงานเอกชน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด