ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

วอนช่วยเหลือน้องนิว พิการดาวน์ซินโดรม

วันที่ลงข่าว: 23/07/15

สุดรันทดสภาพบ้านไม่แตกต่างจากเล้าหมู  แต่เป็นบ้านของ"น้องนิว" เด็กดาวน์ซินโดรมที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ มุงสังกะสีผุพัง ไร้ประตู ผนังบ้าน และห้องน้ำต้องอาศัยเพื่อนบ้าน วอนผู้ใจบุญเห็นใจร่วมสร้างบ้านให้เด็กพิการยากจน สุดแร้นแค้นช่วงพายุหอบของหนีฝน

 

 

วันที่  23 ก.ค. 2558 นายสันติ ฤาไชย ผอ.ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล นางสมคิด สุทธิพรม หัวหน้าคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก รพ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านขมิ้นน้อย ต.ผาเสวย อ.สมเด็จจ.กาฬสินธุ์ ของนายเจ๊ก คิดอ่าน และนางอรทิน บุตรพันธ์ พ่อและแม่ของ ของ ด.ญ.ปิยะพร คิดอ่าน หรือน้องนิว อายุ  14  ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการดาวน์ซินโดรม ศึกษาอยู่ชั้น ม.2 ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล และทันทีที่ถึงบ้านน้องนิวทั้งร้องไห้และโผวิ่งเข้ากอดพ่อและแม่ที่รออยู่ ซึ่งคณะที่เดินทางไปเยี่ยมครั้งนี้ต้องตะลึงกับสภาพที่เรียกว่าบ้านของน้องนิว เพราะมีสภาพไม่ต่างจากเล้าหมู ไม่มีรั้ว ประตู ผนัง และพื้นบ้านก็เป็นดิน มีลักษณะคล้ายกับเป็นกระท่อมมีสังกะสีผุพังมุงหลังคาและผ้าใบล้อมบ้านเพื่อกันลม แดด และฝน ซ้ำร้ายไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟ ต้องอาศัยพ่วงมาจากเพื่อนบ้านใช้ โดยทางคณะได้นำเอาข้าวสารและมอบทุนส่วนหนึ่งให้กับครอบครัว

 

 

นายสันติ  ฤาไชย ผอ.ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล กล่าวว่า ทางโรงเรียนมีโครงการเยี่ยมบ้านลูก ๆ นักเรียนในสังกัดที่ได้เดินทางไปเยี่ยมในพื้นที่ต่าง ๆ กระทั่งคณะครูได้ออกเยี่ยมบ้านน้องนิวที่ได้โทรประสานกับพ่อและแม่ของน้องนิว เมื่อมาถึงแรก ๆ คณะครูที่เดินทางมาเยี่ยมต่างตะลึงกับสภาพที่เรียกว่าบ้านของครอบครัวน้องนิว จากนั้นจึงได้รับรายงานจากครูว่าบ้านของน้องนิวนั้นมีฐานะยากจนมาก แม่ก็ได้รับอุบัติเหตุที่หลัง ประกอบอาชีพไม่ได้ ขณะที่พ่อมีอาชีพฆ่าหมูและนำเนื้อหมูแบ่งขายในหมู่บ้าน ซึ่งก็มีทั้งขาดทุนได้กำไร ฐานะทางครอบครัวจึงลำบากมาก แต่ด้วยความรักพ่อและแม่น้องนิวช่วยกันเลี้ยงดูและดูแลน้องนิวเป็นอย่างดี รับส่งไปโรงเรียนตลอด 7 ปีที่ได้นำลูกสาวคนเดียวไปเรียนที่ ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล จากการสอบถามเพื่อนบ้านและคนในหมู่บ้าน ทุก ๆ คนจะชินตามากกับภาพของสองพ่อลูกนั่งซาเล้งขายหมู ขณะที่น้องนิวก็จะเรียกลูกค้าและช่วยพ่อขาย ขณะที่อยู่ โรงเรียนน้องนิวเป็นเด็กดี มีจิตอาสาช่วยเหลือครูและเพื่อนทำงานบ้านทุกอย่าง เป็นคนรักสะอาด ซึ่งทางคณะครูอยากจะให้น้องนิวมีบ้านที่เป็นบ้านจริง ๆ รวมถึงทุนประกอบอาชีพของพ่อแม่ของน้องนิว อยากให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาช่วยเหลือน้องนิว เพราะครอบครัวนี้ลำบากมากจริง ๆ  

 

 

นายเจ๊ก  คิดอ่าน พ่อของน้องนิว กล่าวว่า ตอนที่น้องนิวคลอดออกมาและหมอบอกว่าลูกเป็นดาวน์ซินโดรม ก็เสียใจแรก ๆ แต่ก็ดีใจที่ยังมีลูกและตั้งใจจะเลี้ยงอย่างดีที่สุด แต่ก็เกิดปัญหาเพราะญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้านไม่ต้อนรับลูกสาว จึงตัดสินใจพาครอบครัวหนีออกจากหมู่บ้านไปอยู่บนเขาเดิ่นในเขตเทือกเขาภูพาน ใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำ หาของป่าขาย และพาลูกสาวไปหาหมอเป็นประจำ กระทั่งสถานีอนามัยแนะนำให้เอาลูกสาวไปสมัครเรียนที่ ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล จึงพาไปสมัครเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 แรก ๆ ก็เป็นห่วงลูกไม่ อยากเอาลูกไป เทียวไปหาลูกบ่อย ๆ ทางครูก็อธิบายและให้เรานั่งดูลูกทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ตอนนี้หายห่วงแล้ว ดีใจด้วยที่ลูกสาวไปอยู่โรงเรียนที่มีคนรัก มีคนเมตตา ไปรับไปส่งเองทุก ๆ เทอม บางครั้งก็นั่งรถโดยสารประจำทาง บางครั้งก็ขับซาเล้งไปส่งบ้าง แต่อย่างหลังนี่ลำบากเพราะรถไม่ถูกกฎหมายถูกเรียกตรวจบ่อย แต่จะใช้ขับไปขายของตามชุมชนและในหมู่บ้าน ทั้งตลาดนัดบ้าง ในช่วงปิดเทอมก็จะมีน้องนิวไปช่วย หลัง ๆ มาแม่น้องนิวประสบอุบัติเหตุที่หลัง เดินไม่สะดวก ตัดสินใจย้ายบ้านออกจากป่ามาที่บ้านหลังนี้ที่ห่างไกลจากชุมชนบ้าง แต่ยังมีหมู่บ้านรอบ ๆ เพราะแม่น้องนิวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มากนัก ขณะเดียวหากน้องนิวปิดเรียนจะได้มีเพื่อนคอยดูเป็นหูเป็นตาช่วยเหลือบ้าง แต่สภาพบ้านทั้งในป่าและหลังที่มาอยู่ในปัจจุบันสภาพก็ไม่แตกต่างกันนัก จะลำบากก็ตอนลมแรงฝนตกต้องหาที่หลบฝนยิ่งเวลากลางคืนไม่ต้องนอนกันเลยส่วนอาชีพก็ยึดอาชีพชำแหละเนื้อหมูขาย ขายตามหมูบ้านชิ้นละ 10 - 20 บาท เป็นกิโลกรัมก็ขายเท่าราคาในตลาดทั่วไป เดือน ๆ หนึ่งก็มีรายได้ประมาณ 2,000 บาท

 

 

ขณะที่นางสมคิด  สุทธิพรม หัวหน้าคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กฯ กล่าวว่าสำหรับน้องนิวมีความบกพร่องทางสติปัญญาดาวน์ซินโดรม จะพูดไม่เป็นประโยค พูดเป็นคำสั้น ๆ พูดไม่ชัด เท่าที่สอบถามกับครูผู้ดูแล เป็นเด็กที่ชอบทำงานบ้าน ช่วยเหลือตัวเองได้ มีความประพฤติเรียบร้อย ซึ่งก็เป็นผลพวงจากการฝึกและพัฒนาเด็กของครู และจาก ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล ที่ถือว่าสร้างพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้อย่างดี นอกจากนี้การที่เด็กช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยเหลือครอบครัวได้ รวมถึงยังช่วยพ่อแม่หารายได้อีก ถือเป็นเรื่องดีที่น่าจะให้เป็นต้นแบบ ทั้งนี้ในด้านการฝึกและพัฒนาด้านอาชีพต้องดูอีกครั้งว่าน้องนิวมีความถนัดอะไรบ้าง ก็ควรที่จะส่งเสริมให้ถึงที่สุด แต่อย่างไรก็ตามในสภาพความเป็นอยู่ของเด็ก คนพิการและสตรี จะต้องมีความปลอดภัยมากกว่านี้ ทั้งต้องมีรั้วรอบขอบชิด มีห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะ ตัวบ้าน ผนัง หลังคา ต้องมีความแข็งแรงมั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต มีความปลอดภัยจากพายุฝน ลมแรง และภัยสังคมอื่นๆ

 

 

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาผู้ใจบุญ เครือข่ายจิตอาสาต้องการที่จะ ช่วยเหลือครอบครัวน้องนิว สามารถติดต่อที่ ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล หรือคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก รพ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์มบ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 23 กรกฎาคม 2558
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก

Fatal error: Call to undefined function drupal_get_path() in /usr/local/www/apache22/data/Braille-new/sites/all/modules/better_statistics/better_statistics.module on line 181