ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

หนุ่มพิการจิตอาสา!นั่งวีลแชร์กวาดลานวัด

วันที่ลงข่าว: 03/07/15

หนุ่มพิการจิตอาสา! นั่งวีลแชร์เกาะท้ายรถจยย.เมีย กวาดลานวัดทั่วเมืองชัยนาท เผยต้องการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ พร้อมปลุกจิตสำนึกเมาแล้วขับทำคนพิการตลอดชีวิต

 

          ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีชายพิการที่มีจิตอาสาทำความสะอาดลานวัดและมูลนิธิในจ.ชัยนาท โดยมักจะเกาะท้ายรถจักรยานยนต์ที่ภรรยาขับให้ออกไปทำงาน จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่ห้องเช่าเลขที่ 84/1 ซ.เทศบาล 10 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยนาท พบนายสมนึก เพชรหัวบัว ชายพิการ อายุ 40 ปี ที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทางไปกลวาดลานวัดโพธิ์ภาวนาราม ที่อยู่ใกล้บ้าน โดยเกาะท้ายรถจักรยานยนต์ที่ภรรยาขับให้ ซึ่งนอกจากที่วัดแห่งนี้แล้ว ยังไปทำความสะอาดที่มูลนิธิชัยนาทการกุศล และวัดศรีวิชัยวัฒนาราม ซึ่งอยู่ในตัวเมืองชัยนาท และจากการสอบถามพระในวัดได้รับคำยืนยันว่ามาทำความสะอาดลานวัด รดน้ำต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งไม้ และล้างห้องน้ำ เป็นประจำ

 

          นายสมนึก กล่าวว่า บ้านเกิดอยู่จังหวัดสงขลา สมัยเมื่ออายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ผลการเรียนสอบได้ที่ 1 มีอยู่วันหนึ่งโรงเรียนปิดเทอม พอพาไปงานเลี้ยงตอนค่ำพร้อมกับเพื่อนพ่อ ขากลับถูกรถสิบล้อชน พ่อกับเพื่อนพ่อเสียชีวิต ตนนั่งกลางรอดชีวิตมาคนเดียว จากนั้นรักษาตัวแล้วแม่ดูแลมาโดยตลอดในสภาพที่ขาพิการเดินไม่ได้ พออายุได้ 17 ปี น้าชายที่เป็นทหารส่งมาเรียนฝึกวิชาชีพที่สมุทรปราการ พอจบหลักสูตร 1 ปี ต่อมามีเพื่อนพามาฝึกทำเครื่องประดับมุขที่ตำบลหาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท และได้ทำงานโต๊ะหมู่บูชาฝังมุขที่นี่ตั้งแต่ปี 2538 ค่าจ้างวันละ 70 บาท จากนั้นมีแฟนบ้านอยู่ ต.ธรรรมามูล อ.เมืองชัยนาท และได้ร่วมกันทำกรอบรูปจากก้านมะพร้าว และโคมไฟไม้ไผ่ เป็นโอท็อป โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชัยนาท สมัยอดีต ผู้ว่าฯวิชัย ศรีขวัญ แต่ก็ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลตลอด ด้วยมีแผลกดทับที่ก้น ปัจจุบันไม่ได้ทำโคมไฟแล้ว เพราะต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ และเจียดเป็นค่ารักษาตัว และยังต้องออกไปช่วยงานเป็นจิตอาสาให้กับหน่วยงานต่างๆ เช่น สาธารณสุขจังหวัด ขนส่งจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด พัฒนาชุมชน และโรงเรียนต่างๆ ที่ขอให้ไปสอนทำประดิษฐ์โคมไฟ และกรอบรูป และเป็นประธานศูนย์ประสานงานเครือขายเหยื่อนเมาแล้วขับ ตั้งแต่ปี 2549 ช่วยจังหวัดรณรงค์เมาไม่ขับ ออกไปเยี่ยมคนพิการที่เป็นเหยื่อเมาแล้วขับ ไปให้กำลังใจไม่ให้ผู้ป่วยท้อ รวมทั้งผู้ป่วยอื่นๆที่นอนติดเตียง และสอบถามความต้องการเพื่อจะประสานให้ความช่วยเหลือ บางรายได้ไปช่วยทำแผลด้วย

 

          สิ่งที่อยากได้เวลานี้คือ รถจักรยานยนตพ่วงข้าง ที่สามารถนำรถเข็นขึ้นไปได้ แล้วขึ้นนั่งขับรถไปไหนเองได้ พอถึงที่หมายจะได้นั่งรถเข็นลงจากรถแล้วไปทำงานได้โดยไม่ต้องเกาะท้ายรถจักรยานยนต์ที่ภรรยาขับให้ เพราะไปไกลไม่ได้อันตรายมา เคยจะตกรถเข็นหลายหน เมื่อเดินทางไปเองได้จะได้ไม่เป็นภาระ และภรรยาจะได้ไปทำงานโดยไม่ต้องกังวล ปัจจุบันภรรยาทำงานที่ร้านอาหาร รายได้ 300 บาท/วัน

 

          การที่เป็นคนพิการตั้งแต่อายุ 7 ขวบ พออายุเข้าวันรุ่น 14-15 ปี ช่วงนั้นเครียดมากเคยคิดฆ่าตัวตาย ตอนนั้นไปเจอปืนของพ่อเอามาจอหัวจะยิงตัวตาย แต่ยังไม่ได้ยิง แม่วิ่งมากอดร้องไห้ แล้วแม่บอกว่ายังมีแม่ มีพี่ มีน้อง และยังนึกถึงที่แม่ดูแลอาบน้ำ เช็ดตัว หาอาหารให้กิน จึงไม่คิดฆ่าตัวตายอีก และจะทำให้ทุกคนที่เมาแล้วขับสำนึก และตระหนักว่าเป็นการทำให้คนพิการคนหนึ่งเป็นความลำบากตลอดชีวิตรวมทั้งครอบครัว ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีรถจักยานยนต์พ่วงข้าง แต่ยืนยันว่าจะทำจิตอาสาอย่างนี้จนกว่าสิ้นชีวิต เพราะเห็นว่าคนพิการที่เขากำลังท้อแท้ หมดกำลังใจมีเป็นจำนวนมาก อยากช่วยพวกเขา เมื่อทำแล้วสบายใจ

 

          พระมหาโสรัสจ์ จันทูปโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ภาวนาราม กล่าวว่า เห็นมากวาดที่วัดเป็นประจำ วันละ 2-3 ชั่วโมง มากันสองสามีภรรยา บางวันมีลูกชายมาด้วย หลายคนมาช่วยก็แบ่งเบาภาระของพระได้ ทั้งกวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ รดน้ำต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งไม้ เห็นเขาเดินทางลำบากต้องเกาะท้ายรถจักรยานยนต์ภรรยาพามาเกือบทุกวัน ถ้ามีรถพ่วงข้างก็คงจะดีจะได้ไม่เป็นภาระภรรยา บางวันไม่ได้มาที่นี่ก็ไปที่วัดศรีวิชัยวัฒนาราม การมาทำความสะอาดวัดก็ถือเป็นการทำบุญ

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์คมชัดลึกออนไลน์ วันที่ 2 กรกฎาคม 2558
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก