บอร์ดภาพยนตร์ชาติ หนุนไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิตัลอาเซียน หวังสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ

       วันนี้ (1 ก.ค.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 5/2558 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะ ที่ 3 (พ.ศ. 2559-2563) ที่คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ทำการวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ในภาพรวม รวมทั้งรวบรวมสถิติที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้าน Digital Content ของอาเซียน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการ สนับสนุนปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรม Digital Content

       สำหรับยุทธศาสตร์ มีสาระสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถรวมถึงพัฒนาบุคลากรในการผลิตของอุตสาหกรรมดิจิทัลบันเทิงไทยให้เป็นมืออาชีพพัฒนาตลาดดิจิตัลบันเทิงไทยเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ สร้างค่านิยมและการเพิ่มโอกาสเข้าถึง Content ไทย เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของงานดิจิทัลบันเทิง ความร่วมมือการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลบันเทิงระหว่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาฐานข้อมูลและกลไกล เพื่อยกระดับการบริหารจัดการอุตสาหกรรมดิจิทัลบันเทิงไทย โดยที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียด ข้อเสนอแนะให้ครบวงจร เพื่อให้เกิดเป็นประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านเศรษฐกิจดิจิทัล สถานที่ถ่ายทำ การท่องเที่ยว และการลดหย่อนภาษี มาตรการสนับสนุนทางการคลัง เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งส่งผลดีต่อการเพิ่มศักยภาพด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

       “ข้อเสนอให้จัดตั้งองค์การมหาชนอยู่ภายในการกำกับของ วธ.นั้น ส่วนตัวเห็นด้วย เพราะวงการภาพยนตร์จะได้รับการส่งเสริมอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกกว่าการเป็นราชการ แต่หลายฝ่ายกังวลว่า การตั้งองค์การมหาชน จะทำงานไม่เต็มศักยภาพนั้น เห็นว่า จะต้องมีการวางกรอบการทำงานที่ชัดเจน รัดกุม โปร่งใส และคณะกรรมการส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ โดยให้นำตัวอย่างการทำงานของต่างประเทศที่ดีมาปรับใช้ ทำให้ไทยมีพัฒนางานภาพยนตร์เพิ่มขึ้น” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว