องค์กรมหาอำนาจทางด้านพลังงานอย่าง ปตท. กำลังรุกคืบปฏิรูประบบการศึกษาไทยเพื่อมุ่งหน้าสู่ความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบันและอนาคต ด้วยการทุ่มทุนถึง 6,000 ล้านบาท เพื่อก่อตั้งสถาบันการศึกษาชั้นนำขึ้นมา 2 แห่ง ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ 900 ไร่ ในเขต อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 160 กิโลเมตร คือ

          1.โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เปิดการเรียนการสอนนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เน้นการพัฒนาศักยภาพรายบุคคล มีนักเรียน 18 คนต่อห้อง ทั้งหมด 4 ห้อง สอนเป็นภาษาอังกฤษ เป็นโรงเรียนประจำ และมีครูที่มีคุณภาพทั้งการสอนและวิชาการ นักเรียนรุ่นแรกได้ผ่านการคัดเลือกจากนักเรียนเรียนดีทั่วประเทศ จำนวน 5,000 คน คัดเหลือเพียง 72 คน มีเกรดเฉลี่ยด้านวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ 3.5 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า โดยนักเรียนทุกคนที่เข้าเรียนที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์จะได้รับทุนการศึกษาประมาณ 1 ล้านบาทต่อคนต่อปี ซึ่งกลุ่ม ปตท.เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ

          2.สถาบันวิทยสิริเมธี เป็นสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก เน้นการสร้างนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักวิจัยที่มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าเป็น 1 ใน 50 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกภายใน 20 ปี คือ ภายในปี 2578

“เราต้องช่วยกันสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เหมือนกับที่ชาติมหาอำนาจทั้งหลายในโลกและในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ทำสำเร็จเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท.จึงมุ่งมั่นตั้งใจสร้างสถาบันการศึกษา 2 แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนระดับหัวกะทิของชาติ โดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับโลก ด้วยการพัฒนาระบบการเรียนการสอนใหม่ให้ก้าวล้ำ นำโลก ทันสมัย เราเชื่อมั่นว่าสถาบันแห่งนี้จะช่วยสร้างนักวิจัย หรือนักวิทยาศาสตร์เก่งๆ ระดับแนวหน้าของโลกได้ ถึงขั้นที่ว่าเจ้าของรางวัลโนเบลในอนาคตอาจจะต้องเคยเรียนจบจากที่นี่” ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ซีอีโอ ปตท. กล่าวถึงโรดแม็พสถาบันการศึกษาในฝันของกลุ่ม ปตท.ที่กำลังกลายเป็นจริง

          แน่นอนว่าการสร้างสถาบันการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในระดับชั้นนำของโลกแห่งนี้จะมองข้ามความสำคัญเรื่องอารยสถาปัตย์ (Friendly Design=หลักการออกแบบที่เป็นสากล เป็นธรรมทั่วถึง และเป็นมิตรต่อคนทั้งมวล) ไปไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่ง ดร.ไพรินทร์ และคณะผู้บริหาร ปตท.ทุกท่านเข้าใจและตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงได้มีนโยบายตั้งแต่เริ่มต้นว่าในการออกแบบก่อสร้างสถาบันการศึกษาทั้ง 2 แห่งนี้ ทุกจุด ทุกที่ ทั่วอาณาบริเวณของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะต้องมี “อารยสถาปัตย์” ในแบบจัดเต็ม

          ดร.ไพรินทร์บอกว่า นอกจากเป้าหมายเรื่องความเป็นเลิศทางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว กลุ่มปตท.ยังเล็งเห็นคุณค่าและความสำคัญในการสร้างทำอารยสถาปัตย์ เพื่อให้ทุกสถานที่มีการออกแบบที่เป็นมิตรต่อคนทั้งมวล โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการจะต้องสามารถเข้าถึงได้ ใช้งานได้ สะดวก ปลอดภัย เป็นการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของคนพิการให้ได้รับโอกาสที่ดีทางการศึกษา อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างทางด้านอารยสถาปัตย์ให้แก่สถาบันการศึกษาอื่นๆ ด้วย

          ด้วยเหตุนี้นโยบายอารยสถาปัตย์ในแบบจัดเต็มของซีอีโอ ปตท.จึงขับเคลื่อนเดินหน้าไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้นและเห็นผล เริ่มตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้า ริมถนนสายบ้านบึง-แกลง ซึ่งมีปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาวังจันทร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่ล่าสุด ก็ประเดิมด้วยอารยสถาปัตย์แบบจัดเต็ม จุดเด่นคือ ทางลาด ที่มีอยู่ทั่วทุกจุด และเชื่อมโยงไปได้ทั่วทุกแห่งในบริเวณปั๊ม รวมถึงร้านกาแฟอเมซอน ที่สร้างตามโมเดลใหม่ คือ ไร้บันได แต่ที่สาขาวังจันทร์ เป็นร้านกาแฟแบบ 2 ชั้นแห่งแรก ทางลาดจึงยังมีเฉพาะขั้นล่างเท่านั้น แต่ก็ถือว่าดีมากแล้ว

          โดยเฉพาะห้องสุขาอารยสถาปัตย์ที่ยึดหลักสะอาด สวยงาม สะดวก ปลอดภัย ทันสมัย เท่าเทียม และยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมิตรที่ดีของสถานที่และสะท้อนวิสัยทัศน์ชั้นเลิศของผู้นำองค์กรที่ก้าวล้ำนำสมัยและใส่ใจสังคมได้เป็นอย่างดี

          สัปดาห์หน้าไปดูกันนะครับว่าภายในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่กลุ่ม ปตท.กำลังดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จนี้จะมีอารยสถาปัตย์แบบจัดหนักขนาดไหน

........................................

(หมายเหตุ “สถาบันวิทยสิริเมธี-โรงเรียนกำเนิดวิทย์” อารยสถาปัตย์การศึกษาเพื่อคนทั้งมวล (1)  : คอลัมน์ กฤษนะทัวร์ยกล้อ โดย... กฤษนะ ละไล)