3ทีมแชมป์‘อิมเมจ้นิ คัพ ไทยแลนด์ 2015’
จัดแข่งขันโครงการ อิมเมจิ้น คัพ ไทยแลนด์ 2015 (imagine Cup Thailand 2015) ขึ้น เพื่อเป็นช่องทาง ในการเฟ้นหาสุดยอดไอเดียสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ ๆ
เด็กและเยาวชนถือเป็นบุคลากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องช่วยผลักดันคือ การเปิดเวทีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนเหล่านี้
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) และธนาคารกสิกรไทย ได้จัดแข่งขันโครงการ อิมเมจิ้น คัพ ไทยแลนด์ 2015 (imagine Cup Thailand 2015) ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางในการเฟ้นหาสุดยอดไอเดียสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจ ดิจิตอล
นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงโครงการอิมเมจิ้น คัพ ไทยแลนด์ ว่า เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามาทำความฝันให้เป็นจริง ซึ่งตลอดเวลา 13 ปีที่การแข่งขันอิมเมจิ้น คัพ จัดขึ้น ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่สามารถครองแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัย คือในปี 2550, 2553 และ 2555 ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่มากกว่าประเทศอื่น ๆ
สำหรับในปีนี้ มีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันในอิมเมจิ้น คัพ ไทยแลนด์ กว่า 100 ทีม จากทั่วประเทศ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 17 ทีมและมี 3 ทีมชนะเลิศที่จะเป็นตัว แทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขัน อิมเมจิ้น คัพ ในระดับโลก หรือรอบ World Finals ที่จะจัดระหว่างวันที่ 27-31 ก.ค. 58 ที่เมือง ซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท World Citizenship คือ ทีม visionear จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี น้อง ๆ ในทีมนี้ บอกว่า visionear คือการพัฒนาอุปกรณ์ให้เป็นเสมือนดวงตาของผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น โดยมีกล้องทำหน้าที่เก็บข้อมูลภาพ แล้วนำไปประมวลผลในระบบ ก่อนรายงานออกมาเป็นเสียงผ่านหูฟัง สามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น และเอพีไอ ที่คำนวณและรวบรวมข้อมูลจากโซเชียลเน็ตเวิร์ก เสิร์ชเอนจิ้นและวิกิพีเดีย ช่วยให้ผู้มีปัญหาด้านการมองเห็นทั้งผู้พิการหรือผู้สูงอายุ สามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ตามปกติ เบื้องต้นสามารถอ่านสินค้าที่มีบาร์โค้ด ธนบัตร ไฟ และสีได้
ส่วนทีมชนะเลิศประเภท Games คือทีม TeamBeta จากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยน้อง ๆ ทีมนี้่ได้คิดค้นแอพพลิเคชั่น Magical Lands ซึ่งเป็นทักษะด้านคณิตศาสตร์เข้ามาประยุกต์เป็นเกม เพื่อช่วยพัฒนาสมอง ฝึกคิด นอกจากนี้ยังพัฒนาทักษะสายตา เนื่องจากผู้เล่นต้องใช้หน้าจอสัมผัสและมีเทคนิคการลาก และหยุดต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางคณิต ศาสตร์ แอพนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 7-14 ปี
สำหรับประเภท Innovation ทีมชนะเลิศ คือ ทีม CoZpace จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งทีมนี้่ได้พัฒนาผลงานในรูปแบบของเว็บแอพพลิเคชั่น ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลร่วมกันได้ สามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนในกรุ๊ปที่สร้างขึ้น แชร์ข้อมูลอดีตและค้นหาได้ว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ต้องการค้นหาหรือไม่
ลุ้นศักยภาพเด็กไทยในเวทีระดับโลก ไทยจะคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ได้หรือไม่ ต้องช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจ!!.
สุรัสวดี สิทธิยศ