จังหวัดร้อยเอ็ด ออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 7 วันนี้ (9 เมษายน 2558) เวลา 08.30 -12.00 น. จังหวัดร้อยเอ็ด ให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(พอ.สว.) ร่วมกับโครงการจังหวัดร้อยเอ็ดเคลื่อนที่ และอำเภอเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนณ โรงเรียนบ้านสิงห์ไคล ต.หนองแวง อ.เกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดกรวยถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ก่อนให้บริการ มีนายไพรัช หอมกลิ่น นายอำเภอเกษตรวิสัย และนายสมศรี โยธาจันทร์ นายก อบต.หนองแวง พร้อมส่วนราชการระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

นายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ องค์ประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิ พอ.สว. ได้พระราชทานพระอนุญาตให้จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทร์ บรมราชชนนี (ลำดับที่53)เพื่อบริการประชาชนด้านการรักษาพยาบาล ป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชน ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลคมนาคม เพื่อให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีส่วนราชการระดับจังหวัดร้อยเอ็ดและระดับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่นำงานส่วนที่รับผิดชอบออกไปให้บริการแก่ประชาชน อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด มอบรถจักรยานให้กับนักเรียน จำนวน 5 คัน ถุงยังชีพ 50 ชุด ไม้เท้าผู้สูงอายุ ผู้พิการ 30 อัน และผ้าห่ม 50 ผืน

นอกจากนี้ยังมีส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมออกให้บริการกว่า 40 หน่วยงาน นางอาภารดี โคเวียง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายแพทย์สำเร็จ โพดาพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกษตรวิสัย นายนิคม หาญวงศ์ สาธารณสุขอำเภอเกษตรวิสัย และนายวัฒนาแสนพิมลผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวหนอง พร้อมแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล และ อสม. ผนึกกำลังออกให้บริการ ด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค บริการด้านทันตกรรม และการแพทย์แผนไทย โดยมีผู้มารับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จำนวน326 ราย ทันตกรรม 59 ราย แพทย์แผนไทย 45 ราย คัดกรองตรวจตา 49 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็ด 22 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลเกษตรวิสัย 17 ราย ผู้มารับบริการส่วนมากมาด้วยอาการปวดกล้ามเนื้อ ทางเดินอาหาร และผู้ป่วยระบบตา ตามลำดับ