ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กระทรวงสาธารณสุข จัดหน่วยบริการทำขาเทียมเคลื่อนที่ถึงชุมชน ตั้งเป้าใส่ขาเทียมผู้พิการขาขาดฟรี 600 ราย

วันที่ลงข่าว: 31/03/15

กระทรวงสาธารณสุข จัดหน่วยบริการทำขาเทียมเคลื่อนที่ถึงชุมชนในจังหวัดชลบุรี แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช และพิจิตร ตั้งเป้าใส่ขาเทียมผู้พิการขาขาดฟรี 600 ราย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่ศาลาประชาคม เปิดโครงการส่งเสริมศักยภาพคนพิการขาขาด มอบขาเทียมและอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการแก่คนพิการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการส่งเสริมศักยภาพคนพิการขาขาด เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 โดยจัดบริการเคลื่อนที่ด้วยรถโมบาย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานให้แก่ศูนย์สิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ เมื่อปี 2549 ออกให้บริการฟรีเบ็ดเสร็จที่จุดเดียวถึงชุมชนหมู่บ้าน ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี นครศรีธรรมราช แม่ฮ่องสอน และพิจิตร เพื่อลดข้อจำกัดด้านการเดินทางแก่ผู้พิการ ประกอบด้วยการขึ้นทะเบียนคนพิการ ทำขาเทียม และซ่อมแซมอุปกรณ์ช่วยความพิการ ตั้งเป้าทำขาเทียม 600 ราย งบประมาณ 10 ล้านบาท โครงการจะสิ้นสุดเดือนพฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ ได้เร่งพัฒนาระบบบริการผู้พิการให้ครอบคลุม เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีข้อจำกัดมากกว่ากลุ่มอื่น เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพให้ช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุดตามศักยภาพ การสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุดปี 2555 พบทั่วประเทศมีคนพิการประมาณ 1 ล้าน 5 แสนกว่าคน ร้อยละ 80 อยู่ในชนบท ได้รับการจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตกว่า 1 ล้าน 4 แสนคน เกือบร้อยละ 50 เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว และเป็นผู้สูงอายุ ได้มอบนโยบายให้ทีมหมอครอบครัว ร่วมกับ อสม. ออกดูแลผู้พิการทุกคนในชุมชนให้ได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อรับสิทธิต่าง ๆ ตามกฎหมาย ทั้งการศึกษา อาชีพสาธารณสุข และตั้งเป้าใส่ขาเทียมให้ผู้พิการขาขาดที่ยังไม่มีขาเทียม ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 10,000 คน ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2559

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก