เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ว่า ที่ประชุมหารือกรณีมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ทำรายละเอียดโครงการคุรุทายาท เบื้องต้นเป็นโครงการต่อเนื่อง 15 ปี ให้ทุนนักเรียนชั้น ม.6 เข้าเรียนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ 10 รุ่น 58,000 ทุน ใช้งบประมาณ 4,185 ล้านบาท โดยที่ประชุมให้ สกศ.กลับไปทบทวนจำนวนทุนอีกครั้ง โดยดูความเหมาะสมตามอัตราเกษียณอายุราชการของครูในอีก 10 ปีข้างหน้า ที่มีถึง 200,000 คน จึงอาจปรับทุนเพิ่มขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนั้น สกศ.เสนอข้อดีข้อเสีย รวมถึงจุดอ่อนของการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ซึ่งหลักเกณฑ์หนึ่งที่ค่อนข้างมีปัญหาคือกำหนดให้ผู้รับทุนต้องเรียนได้เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 ทุกภาคเรียน ทำให้บางส่วนเรียนไม่ไหวและต้องออกจากโครงการ ดังนั้น ให้ สกศ.ทบทวนให้เกณฑ์ยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ กำหนดเกรด 3.00 แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 2.75 และให้โอกาสแก้ตัวได้ใน 1 ภาคเรียน โดยให้ สกศ.จัดทำรายละเอียดเสนอครั้งต่อไป

          นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เสนอแนวทางการดำเนินงานจัดทำโครงการทุนช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ และองค์ประกอบคณะกรรมการบริหาร โครงการ ให้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ โดยจะดำเนินการ 5 รุ่น ระหว่างปีงบประมาณ 2558-2572 เพื่อจัดทุนการศึกษา และอบรมระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ ให้นักเรียน นักศึกษา และครูผู้สอนสายวิชาชีพ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ทุนผลิตและพัฒนากำลังคนระยะสั้น ทุนผลิตและพัฒนากำลังคนระยะกลาง และทุนผลิตและพัฒนากำลังคนระยะยาว โดยการจัดสรรทุนใน 1 รุ่น ประกอบด้วย ทุนการศึกษา และฝึกอบรมระยะสั้นในต่างประเทศ 1,600 ทุน และในประเทศ 700 ทุน รวมรุ่นละ 2,300 ทุน ทั้งหมด 5 รุ่น 11,500 ทุน วงเงิน 27,569,720,342 บาท และขอนำงบเหลือจ่ายจากโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 4 ปีงบ 2557 จำนวน 679,623,825 บาท ใช้ดำเนินโครงการในปีงบ 2558

          "สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้รับทุน ประกอบด้วย สอบข้อเขียนเชิงวิชาการ ความถนัดทางวิชาชีพ ผลงานเชิงประจักษ์ รวมถึงแฟ้มสะสมงาน ได้แก่ นวัตกรรมและเทคโนโลยี และผลการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพทั้งระดับท้องถิ่นและประเทศ เป็นต้น และสอบสัมภาษณ์ ผู้รับทุนต้องศึกษาภายในระยะเวลาที่โครงการกำหนด เมื่อเรียนจบต้องกลับมาปฏิบัติงานในภาครัฐ หรือเอกชนในไทย 1 เท่าของระยะเวลาที่รับทุน หากปฏิบัติตามเงื่อนไขไม่ได้ ต้องชดใช้เงินคืนตามจำนวนที่ใช้ไป พร้อมดอกเบี้ยปรับ 1 เท่า" นายชัยพฤกษ์กล่าว