ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เนคเทคต่อยอดพัฒนาระบบติดตามการใช้เครื่องช่วยฟัง

วันที่ลงข่าว: 26/02/15

เนคเทค –รพ.ราชวิถี ลงนามความร่วมมือวิจัยและทดสอบอุปกรณ์พร้อมระบบทางการแพทย์ นำร่องพัฒนาระบบติดตามผลการใช้งานเครื่องช่วยฟัง ฝีมือนักวิจัยไทย ช่วยลดการนำเข้า

 

วันนี้ ( 25 กพ.58) ที่โรงพยาบาลราชวิถี  ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี   เพื่อการวิจัยและพัฒนาการทดสอบทางด้านคลินิก  สำหรับอุปกรณ์และระบบทางการแพทย์  เบื้องต้นร่วมพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการให้บริการและติดตามผลการใช้งานเครื่องช่วยฟัง

 

ดร.ศรัณย์   สัมฤทธิ์เดชขจร    ผู้อำนวยการเนคเทค  เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเนคเทคทำงานร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถีมานานมีการวิจัยและพัฒนาร่วมกันเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง วันนี้จึงเป็นการลงนามความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ  เพื่อขยายความร่วมมือในวิจัยและพัฒนาการทดสอบทางด้านคลินิก  สำหรับอุปกรณ์และระบบทางการแพทย์   เบื้องต้นจะร่วมกันพัฒนาระบบสารสนเทศ สำหรับการให้บริการและติดตามผลการใช้งานเครื่องช่วยฟังที่นักวิจัยเนคเทคพัฒนาขึ้น และมีการทดสอบใช้งานจริงในโรงพยาบาลราชวิถี

 

ทั้งนี้เครื่องช่วยฟัง  รุ่น  “ INTIMA “  ที่นำมาใช้งานและผ่านการทดสอบใช้งานจริงในโรงพยาบาลราชวิถี พัฒนามาจากเครื่องช่วยฟังรุ่น P02  เป็นเครื่องช่วยฟังดิจิทัล 100 % ประสิทธิภาพสูง  ราคาประหยัด  ช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ   ผลงานมีจุดเด่น เรื่องการใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้  ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งาน รวมทั้งได้ผ่านการทดสอบทางคลินิค  และผ่านมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง  มีระบบการควบคุมการผลิตมาตรฐานเครื่องมือแพทย์   ISO13485   และได้รับเครื่องหมายรับรอง CE  เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสหภาพยุโรป   

 

เบื้องต้นเนคเทคได้ขอความอนุเคราะห์ระบบลงทะเบียนการเบิกจ่ายเครื่องช่วยฟัง จากโรงพยาบาลราชวิถี   โดยทดลองศึกษาตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยโสต ศอนาสิก  โดยระบบดังกล่าวมีฟังก์ชั่นพื้นฐานเหมาะสม    ซึ่งเนคเทคจะใช้ระบบดังกล่าวเพื่อต่อยอดใช้เป็นระบบติดตามผลงานการใช้งานเครื่องช่วยฟัง  รุ่น  “ INTIMA “   ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ ผู้พิการทางการได้ยินได้มีโอกาสเข้าถึงอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังในอนาคต 

 

                  

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์เดลินวส์ออนไลน์ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก