เครือข่ายคนพิการ หวั่นถูกเพิกเฉย ตั้งข้อสังเกต ร่างกฎหมายใหม่กระทบผู้พิการ -ด้อยโอกาส หลังเงินกทปส. จะถูกโยกไปกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล เปรยขอมีส่วนร่วมกฎหมาย

วันนี้(16ก.พ.) ที่มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น นายต่อพงค์ เสลานนท์ รองประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เครือข่ายคนพิการได้ตั้งข้อสังเกตร่างกฎหมายจำนวน 10 ฉบับที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิตอลเพื่อปฎิรูปสื่อสารโทรคมนาคมนั้น ได้กระทบต่อผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะการนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) โอนไปเป็นยังกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลเพื่อนำไปพัฒนาเศรษฐกิจและนำไปหมุนเวียนสำหรับภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นการขัดวัตถุประสงค์เดิมที่นำเงินดังกล่าวไปช่วยลดความเลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีให้กับสังคม รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ก็จะหายไปจากสังคม

โดยกฎหมายใหม่นั้นกองทุนฯไม่มีหลักประกันที่ให้ภาคส่วนของสังคมเข้าไปมีส่วนร่วม เนื่องจากในร่างกฎหมายใหม่ ไม่มีสัดส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้แทนคนพิการที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี รวมถึงไม่มีหลักประกันในการเข้าใช้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ได้ระบุกลุ่มคนไว้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันเครือข่ายคนพิการมองว่า รายได้ที่นำเข้ากทปส.เดิมนั้นเป็นรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตจากผู้ประกอบกิจการ ควรอยู่ในการกำกับดูแลขององค์กรอิสระ ซึ่งการโอนย้ายดังกล่าวนี้เป็นการโอนอำนาจการบริหารเงินกองทุนโยงไปหาอำนาจการเมืองอย่างชัดเจน

"เครือข่ายคนพิการไม่ได้เรียกร้องสิทธิ์ที่พึ่งจะมีพึ่งจะได้ แต่ร้องบนพื้นฐานความเท่าเทียมกันของคนในสังคม และไม่ได้ขัดขว้างการออกกฎหมายเพื่อปฎิรูปสื่อสารโทรคมนาคมของไทย แต่อยากให้กลุ่มคนพิการมีส่วนร่วมกัน เนื่องจากในขณะนี้อัตราจำนวนผู้พิการทางสายตามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลพบว่าผู้พิการทางสายตา ณ สิ้นเดือนธ.ค.57 จำนวน 1.8 แสนคน และ เพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 1,700 คน "นายต่อพงค์ กล่าว