ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เยาวชน-ผู้ยากไร้-คนพิการปลื้ม พม.นครนายกร่วมมือหลายหน่วยงาน มอบเงินช่วยกว่า 200,000 บาท หวังสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

วันที่ลงข่าว: 24/02/15

ที่จังหวัดนครนายก นายธนสุนทร สว่างสาลี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครนายก ร่วมกับ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครนายก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับข้อมูลว่ามีราษฎรและเด็กอยู่ในครอบครัวยากจน มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตประจำวัน จึงได้ประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครนายก ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 17 จังหวัดนครายก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 74 ราย เป็นเงิน 74,000 บาท เงินกองทุนคุ้มครองเด็ก จำนวน 5 ราย เป็นเงิน 38,500 บาท เงินกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 5 ราย เป็นเงิน 100,000 บาท และยังมอบรถวีลแชร์สำหรับคนพิการ อีกจำนวน 17 คัน ประธานพิธีมอบได้รับเกียรติจาก นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานมอบเงินทุนและรถวีลแชร์พร้อมให้โอวาท ภายหลังการมอบทุนการศึกษา ได้มีตัวแทนเยาวชนนักเรียนแต่งกลอนกล่าวขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกคนที่ในการสนับสนุนเงินทุนการศึกษา ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(หลังเดิม) บริเวณศาลากลางจังหวัดนครนายก

 

นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ให้โอวาทแก่ผู้ร่วมงานว่า จังหวัดนครนายกมีเจตนารมณ์ในการที่จะช่วยเหลือราษฏรผู้ตกทุกข์ได้ยากให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นร่วมถึงเด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจนได้มีโอกาสทางการศึกษาต่อไป แต่นั้นก็เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้นของทางการ แต่การที่ถูกต้องเพื่อให้การดำรงชีวิตให้พึ่งพาตนเองได้ ทุกท่านในที่นี้ต้องน้อมนำหลังปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต สามารถทำได้เลยโดยยึกหลักทางสายกลาง คือ ไม่ประหยัดจนตระหนี่ถี่เหนียวจนทำให้ตนเองและผู้อื่นลำบาก ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น ใช้สติปัญญาในการดำรงชีวิตค่อยเป็นค่อยไป อย่าใช้หลักการลงทุนเชิงการพนัน การกู้เงินมาลงทุนหวังรวยอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลก่อให้เกิดภาระหนี้สินมากมายภายหลัง และน้องๆ นักเรียน ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้สมกับครอบครัวได้ตั้งความหวังเอาไว้ เมื่อสำเร็จการศึกษาที่ดีมีงานทำ ก็จะสามารถกลับมาดูแลพ่อแม่ ดูแลครอบครัวของเราให้อยู่อย่างมีความสุขต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก