ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย จัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้แก่ผู้บริจาคดวงตาที่ล่วงลับไปแล้ว ในโอกาสวันครบรอบ 49 ปี

วันที่ลงข่าว: 29/01/15

ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศให้แก่ผู้มีอุปการคุณและผู้บริจาคดวงตาให้แก่สภากาชาดไทยที่ล่วงลับไปแล้ว ในโอกาสวันครบรอบ 49 ปี ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย โดยมีพระสงฆ์จากวัดหัวลำโพง มาเจริญพระพุทธมนต์ และนำประกอบพิธีอุทิศส่วนกุศล พร้อมทั้งแสดงสัมโมทนียกถาและให้พร

โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ลลิดา ปริยกนก ผู้อำนวยการศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 49 ปีที่ผ่านมามีผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตาประมาณ 900,000 คน แต่ขณะนี้สามารถนำมาใช้ได้เพียง 9,000 ดวงตา ซึ่งเป็นเพียงแค่ร้อยละ 1 ของผู้ประสงค์จะบริจาคดวงตาเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วยที่ขณะนี้มีมากกว่า 7,000 คน และมีแนวโน้มที่ความต้องการดวงตาจะมีมากขึ้น โดยปัจจุบันศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทยหาดวงตาได้ปีละกว่า 600 ดวง ส่วนหนึ่งจากการทำงานในเชิงรุก ประสานเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 80 แห่ง ให้ร่วมมือเก็บดวงตา และขอดวงตาจากญาติผู้เสียชีวิตโดยตรง อย่างไรก็ตามดวงตาที่จะนำมาใช้ได้ต้องผ่านการคัดกรองก่อน ซึ่งที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 10 จะไม่สามารถนำมาใช้ได้

ผู้อำนวยการศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย กล่าวด้วยว่า ดวงตาที่นำมาใช้ได้จะต้องเป็นดวงตาที่เก็บมาจากผู้เสียชีวิตไม่เกิน 6 ชั่วโมง หรือถ้าเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลโดยอยู่ในช่องเย็นห้องเก็บศพจะต้องเก็บดวงตาภายใน 12 ชั่วโมง โดยดวงตาที่เก็บมานั้นส่วนใหญ่จะนำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่ตาบอดจากโรคกระจกตาพิการ

อย่างไรก็ตาม จากการเก็บข้อมูลทางสถิติพบว่ามีประชาชนบางส่วนยังมีความเชื่อในเรื่องการบริจาคดวงตา ว่าหากบริจาคไปแล้วจะทำให้ชาติหน้าตาบอดมองไม่เห็น เนื่องจากถูกนำดวงตาไป หรือเก็บไปแล้วผู้บริจาคฟื้นขึ้นมา หรือจะทำให้ผู้เสียชีวิตไม่สวย นั้น ผู้อำนวยการศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในขั้นตอนของการเก็บดวงตาจากผู้บริจาค แพทย์ต้องตรวจสอบอย่างดีแล้วว่าเป็นผู้เสียชีวิตแน่นอน 100 เปอเซ็นต์ จึงจะเก็บดวงตาไป นอกจากนี้ภายหลังจากเก็บดวงตาแล้วแพทย์จะตกแต่งโดยใช้วัสดุที่มีลักษณะเป็นโครงตา เข้าไปเสริมแทนที่ดวงตา ซึ่งผู้เสียชีวิตจะเสมือนกับคนนอนหลับธรรมดา

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก