ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการแก่นายจ้างและสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

วันที่ลงข่าว: 29/01/15

วันนี้ (2 ก.ค. 57) เวลา 09.30 น. นายชัยวัฒน์ ศิรินุพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานพิธีเปิด “การประชุมเชิงปฏิบัติการนายจ้างและสถานประกอบการในการจ้างงานคนพิการตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550” ที่โรงแรมบีพี สมิหลา บีช อำเภอเมืองสงขลา โดยมีนายจ้างและสถานประกอบการ ผู้พิการสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายจรัส ชุมปาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และตามกฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้อนรับคนพิการเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคน โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องรับคนพิการที่สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดเข้าทำงานในอัตรา 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน เศษของทุก 100 คน หากเกิน 50 คน ต้องรับคนพิการเพิ่มอีก 1 คน ทั้งนี้นายจ้างหรือเจ้าของประกอบการที่มิได้รับคนพิการเข้าทำงานตามที่กำหนด ให้ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี หรือให้สัมปทานจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วยงาน ฝึกงาน หรือการให้การช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ โดยนับจำนวนลูกจ้าง ให้นับทุกวันที่ 1 ตุลาคม ของแต่ละปี สำหรับจังหวัดสงขลามีจำนวนสถานประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามกฏหมายการจ้างงานคนพิการ จำนวน 177 แห่ง

สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการนายจ้างและสถานประกอบการในการจ้างงานคนพิการประจำปี 2557 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสงขลา และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา รวมทั้งองค์กร, สมาคมคนพิการ นายจ้างและสถานประกอบการในจังหวัดสงขลาที่ให้ความสนใจในเรื่องกฎหมายการจ้างงานคนพิการ เพื่อที่จะนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก