ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

มธ ร่วมมือธุรกิจรถยนต์และธนาคารผลิตบัณฑิตวิศวกรรมยานยนต์ รับเออีซี

วันที่ลงข่าว: 28/01/15

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตอบรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ร่วมมือกับบริษัทสยามกลกาลและธนาคารกรุงเทพ ฯ เปิดโครงการ AUTO TU โดยให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ จัดหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ ภาคภาษาอังกฤษ ด้วยงบประมาณ ๒๐๐ ล้านบาท ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา

ศ.ดร สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมีอัตราการเจริญเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพบว่า ยอดผลิตรถยนต์ของไทยในปี ๒๕๕๕ มีปริมาณ ๒.๔๕ ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๔ ถึงร้อยละ ๖๘.๓๒ ส่งผลให้ประเทศไทยขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับที่ ๑๐ ของโลก และคาดว่าในปี ๒๕๕๖ จะผลิตได้ถึง ๒.๕ -๒.๖ ล้านคัน ซึ่งจะขึ้นอันดับ ๙ ของโลก ทำให้เกิดความต้องการบุคลากรจำนวนมากในอุตสาหกรรมยานยนต์

หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมยานยนต์ เป็นหลักสูตร ๔ ปี มีเนื้อหาพื้นฐานทางด้านวิศวกรรมเครื่องกล เน้นวิชาเฉพาะทางด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่ครอบคลุม ภาคปฏิบัติ ทั้งในด้านการออกแบบและด้านการผลิต รวมทั้งให้นักศึกษาไปฝีกปฏิบัติงานเพื่อสร้างประสบการณ์จริงในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือด้วย เช่น University of New South Wales, University of Nottingham และ Nagaoka University of Technology ทำให้นักศึกษามีความพร้อมด้านภาษาและสามารถทำงานในต่างประเทศ รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร. พรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามกลกาล จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่บุกเบิกดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ได้สนับสนุนงบลงทุนจำนวน ๖๐ ล้านบาทแก่โครงการ AUTO TU ในการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการวิศวกรรมยานยนต์ สื่อการเรียนการสอนอันทันสมัย อาคารหอพัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมูลค่า ๑๐๐ ล้านบาท บนที่ดิน ๕๖๕ ไร่ที่บริษัทสยามกลกาลมอบให้แก่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่ปี ๒๕๓๐

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ ฯ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารสนับสนุนงบประมาณ ๓๐ ล้านบาทให้แก่โครงการ AUTO TU ในการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการ เพื่อการผลิตบุคลากรด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่มีศักยภาพสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดยานยนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยิ่งขยายตัวมากขึ้นเมื่อเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หลักสูตรดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ ตลอดจนภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มาของข่าว www.dlfeschool.in.th/ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก