ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สพฐ กำหนดครูรู้ภาษาเพื่อนบ้าน

วันที่ลงข่าว: 28/01/15

สพฐ. เล็งยกระดับมาตรฐานการศึกษาสู่อาเซียน นำร่องกำหนดครูใหม่ต้องรู้ภาษาเพื่อนบ้าน

นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า (สพฐ.) มีแนวคิดที่จะยกระดับมาตรฐานการศึกษาของไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานอาเซียน โดยเฉพาะบุคลากรครูที่ต่อไปอาจกำหนดให้ครูไทยต้องพูดภาษาเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อย่างน้อย ๑ ภาษา โดยเฉพาะโรงเรียนในจังหวัดชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งมีความจำเป็นต้องใช้มากขึ้น

“สำหรับภาษาอังกฤษมีความสำคัญเพราะถูกกำหนดเป็นภาษากลางของอาเซียน จึงต้องทำให้ครูไทยสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ จึงต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่ผลิตบุคลากรทางการศึกษาเพื่อผลิตครูได้ตรงตามมาตรฐาน เพราะต่อไปการรับคนเข้าทำงานของประเทศอาเซียนจะดูจากมาตรฐานการศึกษาเข้ามาประกอบด้วย การจะยกระดับการศึกษาจึงต้องยกระดับคุณภาพครูผู้สอนก่อน” นางเบญจลักษณ์กล่าว

สพฐ ได้ทำศูนย์กลางทางการศึกษา (Education Hub) ขึ้นในหลายโรงเรียน และจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษาขึ้นในกระทรวงศึกษา

นางศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงฯ มั่นใจว่าบุคลากรครูในประเทศจำนวน ๖ แสนคน มีความพร้อมที่จะแข่งขันเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ เนื่องจากมีแผนพัฒนาอบรมให้ความรู้แก่ครูไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านต่างๆ และเตรียมแผนให้ครูไทยไปแลกเปลี่ยนความรู้และการสอนในอาเซียน เพื่อทำให้ครูรู้จักประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น พร้อมกันนี้ต้องการกระตุ้นให้ครูไทยสนใจพัฒนาความรู้ด้านภาษาให้มากขึ้น ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาในอาเซียนทุกประเทศ

ประเทศไทยมีครูวิชาเอกภาษาอังกฤษประมาณ ๒.๔ หมื่นคน การใช้ไอทีจะช่วยพัฒนาความรู้และความสามารถของครูไทยมากขึ้น และครูสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ด้วยตนเอง

มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมร่วมกับสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และบริษัททีโอทีจำกัด (มหาชน) จัดอบรมการสอนภาษาอังกฤษโดยวิทยากรจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา เช่น มหาวิทยาลัยโอเรกอน ด้วยวิธีประชุมทางไกลผ่านวิดีทัศน์ให้แก่ครูระดับมัธยมศึกษา เชื่อมสัญญาณ ระหว่างกรุงเทพ ฯ – ร.ร. วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรัขันธ์ และโรงเรียนในต่างจังหวัดอีก ๑ แห่ง หมุนเวียนในแต่ละภูมิภาค ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน มีครูจำนวนกว่า ๓,๐๐๐ คน ที่เข้ารับการอบรมในชั้นเรียน และครูอื่นๆ สามารถเข้าชมวิดีทัศน์การอบรมทั้งหมดย้อนหลัง ได้ที่เว็บไซต์ www.dlfeschool.in.th และ www.dlf.ac.th

 

ที่มาของข่าว www.dlfeschool.in.th/ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก