โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยกำลังเปิดเพิ่มอีกปีละ ๓-๕ แห่ง ส่วนรายเก่าขยายมุ่งสู่ตลาดอาเซียน

นายบัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนนานาชาติกำลังได้รับความนิยมของตลาดมาก โดยมีโรงเรียนนานาชาติ ๕-๖ แห่งอยู่ระหว่างขออนุมัติการใช้หลักสูตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการใหม่ และมีแนวโน้มจะเปิดขึ้นเรื่อยๆ จากปกติโรงเรียนนานาชาติจะเปิดใหม่เฉลี่ยปีละ ๓-๕ แห่ง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดโรงเรียนนานาชาติเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ และการก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล ทำให้นักเรียนสนใจหลักสูตรนานาชาติมากขึ้น คาดว่าปี ๒๕๕๖ จะมีนักเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๐ จากปีที่ผ่านมามีผู้เรียนทั้งหมด ๓๐,๐๐๐ คน

สำหรับโรงเรียนนานาชาติที่มีอยู่เดิมเริ่มขยายสาขาไปต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี รวมทั้งขยายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว กัมพูชา และเวียดนาม

“ตอนนี้มีโรงเรียนนอกระบบหลายแห่งที่เข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนสอนอาชีพ อาทิ อาทิโรงเรียนสอนดนตรี สอนทำอาหาร สอนบุคลากรในร้านสปา ฯลฯ ซึ่งมีการตอบรับดีมาก” นายบัณฑิตกล่าว

ถึงสิ้นปี ๒๕๕๕ มีนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติ ๕๙,๒๐๐ คน แบ่งเป็นนักเรียนไทยและต่างชาติจำนวนอย่างละครึ่ง นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา อินเดีย และเกาหลีใต้ มีจำนวนโรงเรียนนานาชาติทั้งหมด ๑๓๘ แห่ง อยู่ในพื้นที่กรุงเทพ ฯ ๙๑ โรงเรียน และต่างจังหวัด ๔๗ โรงเรียน ค่าเล่าเรียนโดยเฉลี่ยเพิ่มจาก ๔.๔๑ แสนบาท/คน/ปี ในปี ๒๕๕๕ เป็น ๔.๖๓ แสนบาท/คน/ปี ในปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕