ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พมจ.เลย มอบความช่วยเหลือแม่สู้ชีวิตภาคอีสาน

วันที่ลงข่าว: 20/08/13

นายวิสิทธิ์ สนามชวด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลย พร้อมเจ้าหน้าที่ และ นายทองอร ชารินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนป่าซาง เข้าเยี่ยมบ้านนางเม้า ศรีนอก อายุ 79 ปี บ้านเลขที่ 352 หมู่ 1 บ้านโนนป่าซาง ตำบลโนนป่าซาง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย ผู้ที่ได้รับรางวัลแม่สู้ชีวิต ประเภทแม่ของลูกพิการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมหาวิทยาลัยวิทยาลัยมหิดล ในงาน “มหิดล-วันแม่” ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ณ ห้องนิทรรศการ ศูนย์การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล ในวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ณ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา แต่นางเม้าฯ ไม่สามารถเดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเองได้ เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง ทางสำนักงาน พมจ.เลย ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทาง เทศบาล องค์กรบริหารส่วนตำบลในจังหวัดเลย ส่งเรื่องราวนางเม้าฯ เข้าไปยังสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และได้รับการพิจารณาได้รับรางวัลดังกล่าว

ซึ่งหลังจากทางสำนักงาน พมจ.เลย ทราบข่าว จึงเดินทางมามอบสิ่งของ และเงินสดจำนวน 2,000 บาท ครอบครัวนี้ ได้รับเป็นเงินเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท และเงินช่วยเหลือผู้พิการจำนวน 500 บาท สำหรับลูกชาย ทุกเดือน ซึ่งต่อไปทางสำนักงานฯ จะทำเรื่องขออนุมัติจัดซื้อรถเข็น พร้อมเงินซ่อมแซมบ้าน ปรับภูมิทัศน์ เพื่ออำนวยสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวัน แก่ผู้สูงอายุและคนผู้พิการต่อไป สำหรับนางเม้าฯ เดิมเป็นชาวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น อพยพมาอยู่ที่อำเภอผาขาว จังหวัดเลย เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยสามีพาครอบครัวและลูกมาซื้อที่นา ดำเนินชีวิตตามปกติ จนลูกโตต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมด เหลือแต่ลูกสาวคนโต และลูกชายคนสุดท้อง คอยดูแล หลังสามีตายมีแต่ลูกชายคนเล็กคอยหาเงินมาจุนเจือ แต่มาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถชนที่จังหวัดอุดรธานี นอนสลบอยู่ 15 วัน จึงฟื้น เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนต้องนอนรักษาต่ออีก 2 เดือน จนสามารถเดินเหินได้ กลับมาอยู่ที่บ้าน ได้เพียง 2 เดือน ร่างกายกลับทรุดลง กล้ามเนื้อลีบไม่มีแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ แม่ต้องคอยดูแลทุกวัน ตอนเช้าต้องปลุกไปแปรงฟัน ป้อนข้าว และนำไปนอนทั้งวัน ช่วงเย็นต้องอุ้มไปอาบน้ำ ป้อนข้าว แล้วเข้านอน ทำเช่นนี้มาตั้งแต่ลูกชายอายุ 19 ปี จนปัจจุบันอายุ 35 ปี แต่ก็ต้องทำจนกว่าจะไม่สามารถทำได้ หรือตายจากกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีแรง ต้องอาศัยลูกสาวคนโตมาช่วย จะไม่ไหวอยู่ แต่ก็ต้องทำ

 

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก