ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รัฐบาลเปิดตัวโครงการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริการแม่และเด็กให้แข็งแรง

วันที่ลงข่าว: 15/08/13

รัฐบาลเปิดตัวโครงการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริการแม่และเด็กให้แข็งแรง พร้อมกระตุ้นพัฒนาการเด็กไทยฉลาดทั้งปัญญาและอารมณ์ ปลอดความพิการและโรคทางพันธุกรรมเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

นายประดิษฐ สินษวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโครงการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ ด้วยบัตรสุขภาพแม่และเด็ก เป็นโครงการที่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขจัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นการต่อยอดนโยบายลดความเหลื่อมล้ำด้านการรักษาพยาบาล ที่รัฐบาลดำเนินการยกระดับให้ประชาชนที่ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศได้รับบริการที่ดีขึ้น ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ โดยนำร่องการพัฒนาระบบรักษามาตรฐานเดียว ในโรคที่มีอัตราการเจ็บป่วยและเสียหายทางเศรษฐกิจมากที่สุด ซึ่งบริการที่ดำเนินการไปแล้ว คือ บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชึวิต ดำเนินการไปแล้วกว่า 1 ปี รวมถึงโรคเอดส์และโรคไตวายเรื้อรัง ที่เริ่มมาแล้ว 10 เดือน ได้ผลเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โอกาสพิการ เสียชีวิต ลดต่ำลงจนน่าพอใจ

โครงการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ ด้วยบัตรสุขภาพแม่และเด็ก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เริ่มโครงการตั้งแต่วันนี้ (14 ส.ค.56) เป็นต้นไป เปิดให้หญิงท้องทุกคนสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาลใกล้บ้านได้ทุกแห่ง โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะทำหน้าที่เก็บข้อมูลผู้รับบริการทั้งหมดผ่านระบบออนไลน์ของ สปสช. ที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อป็นข้อมูลในการจัดงบประมาณต่อไป ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาคุณภาพประชากรไทยกลุ่มแม่และเด็ก ที่มีปัญหามากในช่วงที่ผ่านมา เรื่องพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล เกิดจากปัญหาการท้องไม่พร้อม หรือท้องแล้วไม่ยอมมาฝากครรภ์ ที่ผ่านมามีเพียงร้อยละ 47 ที่มาฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่สมองของเด็กจะพัฒนาได้สูงสุด นอกนั้นมาเกินเวลา หรือมาตอนคลอด จึงไม่ได้รับการดูแลและเสริมวิตามินที่จำเป็นต่อแม่และเด็ก ทั้งโฟเลต ไอโอดีน และเหล็ก แต่เมื่อขยายบริการนี้แล้ว จะช่วยให้เด็กไทยรุ่นต่อไปแข็งแรง พัฒนาการสมวัย และปลอดจากโรคทางพันธุกรรม และโรคที่ติดต่อจากแม่สู่ลูก

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก