ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ขาดแขนขาดขา แต่ไม่เคยขาดความหวัง

วันที่ลงข่าว: 26/07/13

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมเขียนถึง เบตธานี่ แฮมิลตัน นักโต้คลื่นสาวชื่อดังวัย 23 ปี ที่เสียแขนข้างซ้ายจากการถูกฉลามกัดถึงโคนแขนเมื่อ 9 ปี ครั้งนั้นเธอเป็นข่าวดังเพราะขับรถแรลลี่แข่งขันสมบุกสมบันเป็นเวลา 9 วัน บนทะเลทรายประเทศโมรอกโกโดยทำหน้าที่เป็นคนขับ

 

ล่าสุด เบตธานี่เป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อออกมาเปิดใจเรื่องความรัก เพราะกำลังเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 18 สิงหาคมที่จะถึงนี้ กับ อดัม เดิร์กส์ ครูสอนศาสนาวัย 25 ปี ที่พบรักกันเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วจากการแนะนำของเพื่อน 

 

แต่ไหนแต่ไร เบตธานี่ไม่เคยเปิดใจเรื่องความรัก และคนก็ไม่เคยถามเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจสร้างความอึดอัดให้กับเธอ ไม่อยากให้เบตธานี่เสียความรู้สึกว่าการเสียแขนอาจเป็นอุปสรรคในเรื่องความรัก

 

เบตธานี่เพิ่งเปิดใจว่าก่อนที่จะพบกับอดัมเธอคิดมาตลอดว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะมีคู่ชีวิตเพราะเธอมีร่างกายไม่เหมือนคนอื่น และคงเป็นการโกหกถ้าบอกว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเวลาเห็นตัวเองในกระจกที่มีแขนข้างเดียว 

 

แต่เธอเชื่อมั่นในพระเจ้าว่ามีคนพิเศษเตรียมไว้ให้เธอ 

 

เบตธานี่เล่าว่า กว่าที่จะยอมรับว่าอดัมรักเธอก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร เพราะไม่มั่นใจว่าอดัมรักเธอ ยอมรับในตัวเธอซึ่งไม่เหมือนคนอื่น ไม่แน่ใจว่าอดัมพร้อมที่จะเคียงข้างสนับสนุนให้กำลังใจเธอตลอดไปหรือไม่

 

 

 

ทางด้านอดัมบอกว่าหลังจากได้ใช้เวลากับเบตธานี่ไม่กี่ครั้ง ก็ทราบเลยว่าเบตธานี่เป็นคนที่ใช่ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เหมือนกัน 

 

ที่สำคัญคือ มีความยึดมั่นในพระเจ้า

 

หลังจากแต่งงานแล้ว เบตธานี่ยังคงตั้งใจที่จะทำงานด้านการกุศลช่วยเหลือผู้ไร้แขนขาให้มีโอกาสได้เล่นกีฬา 

 

 

 

คนไร้แขนขาชื่อดังของโลกที่เบตธานี่เคยสอนให้เล่นกระดานโต้คลื่นคือ นิก วูยิชิช นักพูดให้กำลังใจชาวออสเตรเลียวัย 30 ปี ที่จะเดินทางมาพูดในงานทอล์กโชว์ No Limits: Nick Vujicic Live in Bangkok ในเมืองไทย วันที่ 3 กันยายน ที่จะถึงนี้ 

 

เมื่อห้าปีก่อนนิกเดินทางไปฮาวายและพบกับเบตธานี่ เธอเป็นคนสอนให้นิกเล่นกระดานโต้คลื่น 

 

ตอนแรกนิกบอกว่ากลัว แต่หลังจากทรงตัวได้ก็รู้สึกสนุกมาก 

 

แม้ นิก วูยิชิช จะเล่นกระดานโต้คลื่นไม่เก่งระดับเบตธานี่ แต่ที่นิกแซงหน้าไปแล้วก็คือเขาแต่งงานเมื่อปีก่อน และมีลูกชายที่สมบูรณ์แข็งแรงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับภรรยาสาวสวยชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นชื่อ คานาเย่ มิยาฮาร่า

 

นิกเคยคิดเช่นเดียวกันกับเบทธานี่ว่าด้วยร่างกายที่ไม่เหมือนใครเช่นนี้จะมีใครมารัก 

 

ตอนเด็กๆ นิกเศร้าใจมากที่เกิดมาไม่มีแขนขา อยากฆ่าตัวตาย แต่อยู่มาวันหนึ่งตอนอายุ 13 เขาได้อ่านเรื่องราวของชายพิการที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและสามารถช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้นิกได้คิดว่าพระเจ้าสร้างเขาให้มาเป็นเช่นนี้เพื่อให้ความหวังกับคนอื่นในสังคมว่าอย่าท้อแท้ในชีวิต ดังนั้น เขาจึงใช้ตัวเองเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ว่าชีวิตยังมีหวัง ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมี ไม่โกรธแค้นกับสิ่งที่ตัวเองขาด 

 

นับจากวันนั้น เวลานิกมองกระจก เขาก็บอกกับตัวเองว่า แม้จะไม่มีแขนขา แต่ดวงตาของเขาก็ยังสวยงาม ซึ่งดวงตาคู่นี้ที่เป็นสิ่งที่ทำให้คานาเย่ตกหลุมรักนิกทันทีที่เห็นนิกจากการที่เพื่อนนัดให้เจอกัน 

 

 

 

คานาเย่บอกว่านิกมีดวงตาสวย ยิ้มสวย ที่สำคัญมีนิสัยเข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นสิ่งที่แฟนคนก่อนๆ ที่ร่างกายปกติขาดหายไป 

 

นิกบอกว่าบ่อยครั้งที่ผู้คนเห็นเขากับคานาเย่แล้วเดินเข้ามากอด...และร้องไห้ เพราะการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันของนิกกับคานาเย่แสดงให้เห็นว่ารักแท้นั้นยังมีอยู่จริง

 

หลายคนแอบสงสัยว่าเวลา "กุ๊กกิ๊ก" กันตามประสาสามีภรรยามีอะไรที่ขาดตกบกพร่องหรือเปล่า? 

 

คานาเย่หัวเราะแล้วตอบว่านิกมีอวัยวะในการ "ปฏิบัติกิจ" ครบสมบูรณ์

 

นิกเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเขาจะเป็นสามีแบบไหนในเมื่อไม่สามารถกอดภรรยาได้ 

 

แต่ตอนนี้ได้คำตอบแล้วว่า...ด้วยความรักที่มอบให้ เขาสามารถกอดหัวใจภรรยาได้แนบแน่น

 

โดย พิศณุ นิลกลัด

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ วันที่ 25 กรกฎาคม 2556
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก