วันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่ห้องประชุมยศสุนทร ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายสันชัย พัฒนวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัด ครั้งที่ 7/2568  โดยมีนางสาวพัทธิอร กาฬสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร และคณะอนุกรรมการฯ ร่วมหารือเพื่อขับเคลื่อนงานเกี่ยวกับผู้พิการในจังหวัดยโสธร

        โดยในที่ประชุมมีการเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์คนพิการในจังหวัดยโสธร ที่ล่าสุดพบว่ามีผู้พิการรวม 22,518 คน (คิดเป็นร้อยละ 4.26 ของประชากรทั้งจังหวัด) โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สูงถึงร้อยละ 62.95 และมีความพิการทางการเคลื่อนไหวเป็นอันดับ 1 ซึ่งจังหวัดพร้อมให้การดูแลอย่างทั่วถึง และในโอกาสนี้ยังมีการแจ้งเรื่อง ประกาศกระทรวง พม. ฉบับใหม่ พ.ศ. 2568 ที่ปรับปรุงหลักเกณฑ์ความพิการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่ตาบอดข้างเดียว นิ้วมือหรือนิ้วเท้าขาด หรืออวัยวะไม่ครบ 32 ประการ สามารถจดทะเบียนเป็นคนพิการเพื่อรับสิทธิสวัสดิการและความเท่าเทียมจากภาครัฐได้ ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป ถือเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดเดิมและสร้างความสุขให้กับประชาชนจำนวนมาก ขณะเดียวกันเพื่อให้คนพิการพึ่งพาตนเองได้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย อนุมัติเงินกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพ รวม 18 ราย วงเงิน 715,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนในอาชีพเกษตรกรรม เช่น เลี้ยงโค เลี้ยงสุกร และค้าขาย ซึ่งเป็นการกู้ยืมแบบไม่มีดอกเบี้ย อนุมัติโครงการบริหารจัดการศูนย์ฯ ในพื้นที่เทศบาลตำบลทรายมูล และศูนย์เพื่อคนพิการจังหวัดยโสธร เพื่อเป็นจุดประสานงานสิทธิประโยชน์ในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเตรียมจัดงาน วันคนพิการสากล ในเดือนมกราคม 2569 ที่จะบูรณาการงบประมาณร่วมกับ อบจ.ยโสธร เพื่อเชิดชูเกียรติและมอบความสุขให้พี่น้องคนพิการ

         โดยในโอกาสนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรได้กล่าวชื่นชมผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ที่สามารถปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้คนพิการได้ถึง 72 หลัง และสนับสนุนกายอุปกรณ์ ทั้งรถวีลแชร์ และรถสามล้อมือโยกกว่า 500 คัน รวมถึงการจัดบริการผู้ช่วยคนพิการ (PA) ที่เข้าไปดูแลถึงบ้าน และการดำเนินการส่วนอื่น ๆ ทำให้ให้คนพิการยโสธร มีศักดิ์ศรี มีอาชีพ และเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียม และในการปรับเกณฑ์ใหม่ของ พม. จะช่วยให้คนอีกหลายคนได้รับโอกาสที่เขาควรจะได้ จึงฝากขอให้ช่วยเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้พิการได้เข้าถึงบัตรประจำตัวคนพิการโดยเร็วที่สุดเพื่อรับสิทธิ์ต่าง ๆ เหล่านี้