สสจ.เชียงใหม่รณรงค์7กลุ่มเสี่ยงเร่งรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี68 ป้องกันติดเชื้อลดอาการรุนแรง
เชียงใหม่ - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รณรงค์เชิญชวนประชาชนโดยเฉพาะ 7 กลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2568 เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นฤดูฝนที่เชื้อแพร่กระจายง่าย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงหากล้มป่วย เผยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้งสิ้น 130,880 โดส และดำเนินการฉีดไปแล้วกว่า 24,000 โดส
นายแพทย์ฐิติกานต์ ณ ปั่น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2568 ว่า ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทั้งหมด 130,880 โดส สำหรับบริการกลุ่มเป้าหมาย ทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งสามารถขอรับบริการได้ในสถานบริการที่มีสิทธิการรักษา โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการฉีดไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 24,000 โดส และกำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับบริการจนครบถ้วนครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายโดยเร็ว
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลนั้น ปกติจะเริ่มทำการฉีดตั้งแต่ช่วงต้นฤดูฝน เนื่องจากช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ของทุกปี อากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงสูงจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้เชื้อโรคต่างๆ เจริญเติมโตได้ดี และแพร่กระจายได้ง่ายมาก โดยเฉพาะเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนกับเชื้อโรค เช่น มือ หรือเครื่องใช้ส่วนตัว สัมผัสกับน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย หายใจเอาเชื้อไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศ จากการไอ จาม ของผู้ป่วยเข้าไป
ดังนั้นเมื่อได้รับเชื้อโรคจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จะมีอาการรุนแรงมาก จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งนอกจากโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังมีโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ได้แก่ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มโรคที่ติดต่อทางน้ำและอาหาร กลุ่มโรคที่ติดเชื้อทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง กลุ่มโรคที่มียุงเป็นพาหะ โรคที่พบได้ง่ายในกลุ่มเด็กเล็ก และอาหารเป็นพิษ ซึ่งคาดว่าในปีนี้ระบาดมากกว่าปีที่ผ่านมา
โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเริ่มเข้าฤดูฝน เพราะร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ทัน สำหรับวัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า จะเน้นที่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี 2568 ที่ให้บริการฟรี ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ขณะนี้เป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์
ทั้งนี้เป็นวัคซีนที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จาก 3 สายพันธุ์หลัก ประกอบด้วย ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ H1N1 , ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ H3N2 และไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B ซึ่งวัคซีนชนิดนี้ช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคที่เกิดจากไวรัสทั้งสามสายพันธุ์ดังกล่าว ที่เป็นสายพันธุ์วัคซีนซีกโลกใต้ ซึ่งมีความครอบคลุมและคล้ายคลึงกับสายพันธุ์ที่มีการระบาดอยู่ในประเทศไทย
ขณะเดียวกันรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงเชียงใหม่ ระบุว่า นอกจากการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แล้วเพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงของอาการป่วยและลดโอกาสการเสียชีวิต ทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยังขอเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ที่สามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ฟรีทุกสิทธิการรักษา ได้แก่ 1. หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป, 2. เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ, 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรังทุกกลุ่มอายุ, 4. ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป, 5. ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้, 6. ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องรวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และ 7. ผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร