จ.ปทุมธานี จับมือ สวทช. มูลนิธิ SOS ดัน "ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล" ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
วันที่ 2 พ.ค.68 ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือใน “การขยายผลโครงการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อลดขยะอาหารและสร้างความมั่นคงทางอาหารในชุมชน” โดยมี พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. นายนรินทร์ศักดิ์ พรรคเจริญ นักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นชำนาญการพิเศษ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี นายทวี อิ่มพูลทรัพย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี
นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ความร่วมมือการขยายผลโครงการการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อลดขยะอาหารและสร้างความมั่นคงทางอาหารในชุมชน เพื่อเกิดเป็น “ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล” นับเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อจังหวัดปทุมธานี และจะเป็นต้นแบบที่มีคุณค่าและสามารถสร้างประโยชน์ให้กับจังหวัดอื่น ๆ ได้ด้วย โดยทั้ง 3 หน่วยงานของจังหวัด ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล เกิดขึ้นจริง และสามารถสร้างความยั่งยืนด้านอาหารให้กับชุมชนต่อไป
การขยายผลโครงการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อลดขยะอาหารและสร้างความมั่นคงทางอาหารในชุมชน โดยใช้กลไกชุมชนรักษ์อาหาร (Local Food Rescue) เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อาทิ ผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ประสบภัย ควบคู่ไปกับการลดปริมาณขยะอาหารในพื้นที่ โดยมุ่งสู่การพัฒนา “ปทุมธานีต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกิน (Pathum Thani Food Bank Model)” เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงอาหารและการจัดการอาหารส่วนเกินอย่างยั่งยืน โดยประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ที่เหมาะสมในหลายด้าน ครอบคลุมทั้งความปลอดภัยอาหาร การเก็บรักษา การขนส่ง การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ การแจกจ่าย รวมถึงการคำนวณข้อมูลการปล่อยคาร์บอน ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญและจะเป็นต้นแบบการดำเนินงานในจังหวัดอื่น ๆ ตามเป้าหมายที่จะนำโมเดลนี้ขยายผลไปอีก 7 จังหวัดทั่วไทยภายในปี 2568