นายกรัฐมนตรี เผยเร่งรัด 8 แนวทาง ส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ พร้อมผลักดันสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับเปิดเออีซี

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “สร้างสังคมดีปราศจากอุปสรรค พร้อมรับประชาคมอาเซียน” ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นผลจากการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสนับสนุนมาตรการผลักดันจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการ และทุกคนในสังคมเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ โดยให้จัดหาปรับปรุง จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานไม่น้อยกว่า 5 ประเภท ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ และบริการข้อมูลข่าวสาร และให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2558 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมไปถึงการประกาศใช้กฎกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการทั้งในอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ บริการขนส่ง ข้อมูลข่าวสาร การสื่อสาร บริการโทรคมนาคม เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกเพื่อการสื่อสาร และบริการสื่อสาธารณะสำหรับคนพิการ

นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 19 กระทรวง 2 หน่วยงาน เพื่อสนับสนุนมาตรการผลักดันการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการ และทุกคนในสังคมเข้าถึงและใช้ประโยชน์ พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลได้จัดโครงการ “เปลี่ยนภาระเป็นพลัง สร้างสังคมเพื่อทุกคน” เป็นความตั้งใจจริงของรัฐบาลเพื่อเอาชนะความไม่เท่าเทียมและความไม่เสมอภาคที่ยังมีอยู่ในสังคม ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ที่ถือว่าคนพิการไม่ใช่ภาระ แต่เป็นพลังที่มีศักยภาพเหมือนคนปกติทั่วไป โดยรัฐบาลมุ่งสนับสนุนให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตอย่างอิสระได้อย่างมีความสุข อย่างเสมอภาคในสังคม

ทั้งนี้ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน 8 ประการ คือ 1.ส่งเสริมเข้าถึงสิทธิอย่างเสมอภาค เท่าเทียม และไม่มีการเลือกปฏิบัติ 2.จัดให้มีบริการที่ตอบสนองความจำเป็นของผู้พิการแต่ละประเภท และบริการของภาครัฐในด้านต่างๆ ทั้งการศึกษา สาธารณสุข และความยุติธรรม 3.สร้างอาชีพที่สามารถทำงานได้ทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ทำงาน โดยมีการประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน 4.สนับสนุนด้านกีฬาและการท่องเที่ยว 5.สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตประจำวัน 6.พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ 7.ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้พิการ เพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาและพัฒนาได้ตรงจุด และ 8.สนับสนุนให้มีการวิจัยสาเหตุของความพิการในแต่ละประเภทอย่างจริงจังเพื่อวางแผนการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางอย่างเป็นระบบ