วันที่  18 พ.ย. 65 นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกีฬาจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 5/2565 พร้อมหารือคณะกรรมการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ. 2568) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 (ค.ศ. 2025) โดยมีนายไพเจน มากสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเตรียมความพร้อมในการเสนอตัวคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฯ ของจังหวัดสงขลาเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพฯ ที่การกีฬาแห่งประเทศไทยได้กำหนดไว้

          ตามที่จังหวัดสงขลา ได้ขอเสนอตัวคัดเลือกเป็นเจ้าภาพแบบกลุ่มจังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ. 2568) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 (ค.ศ. 2025) ซึ่งจะมีกำหนดการในการเดินทางไปนำเสนอความพร้อมจังหวัดต่อคณะอนุกรรมการกีฬาเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ. 2568) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 (ค.ศ. 2025) ในวันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย นำโดยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

          นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา มีความพร้อมในเรื่องของสนามกีฬา โดยเฉพาะสนามกีฬาติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่ได้รับการรับรองจากฟีฟ่า มีสนามกีฬาจิระนครของเทศบาลนครหาดใหญ่และมีโรงยิมเนเซียมมากมาย เพราะฉะนั้นโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาจึงมีความพร้อมในเรื่องการอำนวยความสะดวก อีกทั้งจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ เป็นศูนย์กลางคมนาคม ศูนย์กลางเศรษฐกิจ มีที่พักทั้งหาดใหญ่และสงขลากว่า 35,000 ห้อง ซึ่งเมื่อพูดถึงความพร้อมแล้ว จังหวัดสงขลานั้นพร้อมเป็นอย่างมาก

         ในส่วนของชนิดกีฬาการแข่งขันซีเกมส์ จังหวัดสงขลามีความพร้อมการจัดการแข่งขัน จำนวน 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล กรีฑา บิลเลียด เพาะกาย ฟุตซอล ปันจักสีลัต เซปักตะกร้อ ไตรกีฬา อีสปอร์ต วอลเลย์บอลชายหาด ตะกร้อลอดห่วง จักรยาน มวยสากลและเอ็กซ์ตรีม สำหรับชนิดกีฬาการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ประกอบด้วย แบดมินตัน วิลแชร์บาสเกตบอล ยูโด และฟุตบอลพิการทางสายตา

        นอกจากนี้ในที่ประชุม ได้หารือถึงความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งความพร้อมด้านสนามแข่งขันและหลังฝึกซ้อม ความพร้อมด้านที่พัก ความพร้อมด้านบุคลากรและอาสาสมัคร ความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยีสาระสนเทศ ความพร้อมด้านงบประมาณ ความพร้อมด้านสถานพยาบาล ด้านคมนาคมและขนส่ง ความปลอดภัยและจราจร ความพร้อมด้านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และด้านประชาสัมพันธ์และระบบเผยแพร่ เป็นต้น