วันที่  13 ก.ย. 65 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม  คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2565 โดยมีคณะกรรมการร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

         โดยในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 9 องค์กร 9 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดทำบริการของศูนย์บริการคนพิการ ศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคารปัญญา 

2. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์บริการคนพิการ มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขากรุงเทพมหานคร 

3. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์บริการคนพิการ มูลนิธิสถาบันแสงสว่างในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ 

4. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์บริการคนพิการ มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

5. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์บริการคนพิการ มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ 

6. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์บริการคนพิการทางสติปัญญากรุงเทพมหานคร 

7. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตเด็กทิสติกและเด็กที่มีความต้องการพิเศษ 

8. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและจัดบริการของศูนย์อาชีพออทิสติก 

และ 9. โครงการสนับสนุนการดำเนินงานและการจัดบริการของศูนย์บริการคนพิการทั่วไปมูลนิธิร่มไทรมีนบุรี ซึ่งจะได้นำทั้ง 9 โครงการขอรับการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนและส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำกรุงเทพมหานครและเร่งดำเนินการต่อไป

          รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า เรื่องคนพิการไม่ใช่แค่เรื่องพัฒนาศักยภาพอย่างเดียว ขอบคุณทุกโครงการ ทุกมูลนิธิ องค์กร ที่เข้ามาร่วมมือและพัฒนาศูนย์บริการคนพิการ รวมทั้งทำโครงการดี ๆ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ การขับเคลื่อนให้สังคมวงกว้างได้รับรู้เรื่องของการพัฒนาและเข้าใจความพิการต่าง ๆ ดังนั้น รัฐบาล กรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ต้องมีนโยบายที่เข้มแข็งขึ้น ในขณะเดียวกันเอกชนเองก็ต้องพัฒนาเพื่อคนพิการให้มากขึ้น 

          ในที่ประชุม สำนักพัฒนาสังคมได้รายงานความคืบหน้าการจ้างงานคนพิการ ใน 50 สำนักงานเขต ซึ่งขณะนี้มีการจ้างงานคนพิการ ดังนี้ จ้างคนพิการครบ 6 คน จำนวน 17 เขต จ้างคนพิการ 5 คน จำนวน 8 เขต จ้างคนพิการ 4 คน จำนวน 9 เขต จ้างคนพิการ 3 คน จำนวน 5 เขต จ้างคนพิการ 2 คน จำนวน 3 เขต และจ้างคนพิการ 1คน จำนวน 8 เขต ในส่วนสำนักพัฒนาสังคม ได้มีการจ้างงานคนพิการ จำนวน 5 คน โดยแยกประเภทความพิการ ดังนี้ 1. พิการทางการมองเห็น จำนวน 26 คน 2. พิการทางการได้ยิน 49 คน 3. พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางกาย จำนวน 75 คน 4.  พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม จำนวน 12 คน 5. พิการทางสติปัญญา จำนวน 14 คน 6. พิการทางออทิสติก จำนวน 24 คน และพิการซ้ำซ้อน จำนวน 12 คน รวมทั้งสิ้น 212 คน นอกจากนี้ ยังพิจารณาให้คนพิการสามารถทำงานด้านอื่นๆ เช่น การรับเรื่องร้องเรียนในระบบ Traffy Fondue ซึ่งจะให้คนพิการมาช่วยงานในแต่ละเขต โดยจะพัฒนาเทคโนโลยีและระบบให้คนพิการใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย